ฮือฮา!เจอพระเกศโบราณ

สุดฮือฮาตำนานพระประธานโบราณจมน้ำเป็นจริง 25 นักประดาน้ำงมพบ "พระเกศ" โบราณ อายุกว่า 200 ปี 

จากกรณีพระประเทืองฐานะวิโร พระลูกวัดบุดดา จ.สิงห์บุรี ฝันว่ามีคนชื่อจำปีซึ่งเสียชีวิตไปแล้วบอกให้ช่วยนำพระพุทธรูป ซึ่งถูกโบสถ์ทับอยู่ที่บริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยาหน้าวัดโบสถ์ย่านซื่อ หลังที่ทำการอบต.ย่านซื่อ หมู่ที่ 4  ต.ย่านซื่อ  จากนั้นได้บอกเล่าเรื่องราวดังกล่าวจนข่าวแพร่สะพัด กระทั่งมีนักประดาน้ำงมไปค้นหาและพบหลักฐานเป็นก้อนอิฐสมัยเก่าและมีลักษณะคล้ายเศียรพระบางส่วน นำขึ้นมาเมื่อวันที่ 2 ม.ค. ที่ผ่านมา ตามข่าวที่นำเสนอไปแล้วนั้น
          
ความคืบหน้า เมื่อเวลา 07.19 น. วันที่ 16 ม.ค. ที่บริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยาหน้าวัดโบสถ์ย่านซื่อ หลังที่ทำการ อบต.ย่านซื่อ
 
ได้มีการทำพิธีบวงสรวงเพื่อทำการงมค้นหาพระประธานจากนักประดาน้ำ 25 คน จากทั่วประเทศ  ภายในพิธีมีพระและประชาชนกว่า 400 คนเดินทางมาร่วมพิธีจนหนาตา บางคนได้ตั้งกล้องวีดีโอจับภาพทุกขั้นตอน หลังจากเสร็จพิธีสงฆ์แล้วในเวลา 08.19 น.นักประดาน้ำได้เริ่มทำการงมค้นหา จนกระทั่งเวลา 12.00 น. นักประดาน้ำได้หยุดการค้นหา เนื่องจากพบเพียงก้อนอิฐลักษณะคล้ายกำแพงเป็นจำนวนมาก จึงได้ทิ้งทุ่นไว้ตามจุดต่าง ๆ จากนั้นได้ดำน้ำค้นหาอีกครั้ง กระทั่งเวลา 15.30 น. ทางชุดประดาน้ำได้งมพบพระเกศขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางกว่า 30 เซนติเมตรขึ้นมาได้ ทำให้ประชาชนต่างเบียดเสียดแย่งกันดูให้เห็นกับตา

โดย พระครูกิตตยาภูมินันท์ เจ้าอาวาสวัดโบสถ์ย่านซื่อ กล่าวว่า เป็นสิ่งที่เหลือเชื่อที่นักประดาน้ำค้นพบชิ้นส่วนของพระประธานที่จมมานาน
 
ซึ่งเท่าที่เห็นเป็นพระเกศทำด้วยเนื้อปูน แต่ไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าเป็นเนื้ออะไรเพราะจมอยู่ในน้ำนาน  คงต้องส่งไปพิสูจน์อีกครั้งหนึ่ง การพบพระเกศในครั้งนี้สันนิษฐานว่าพระประธานที่ยังไม่พบน่าจะมีหน้าตักกว้างประมาณ 2.5 เมตร ก็เป็นไปได้ นอกจากนี้ สิ่งที่นักประดาน้ำนำขึ้นมายังมีครกโบราณ ปืนโบราณ มีด สิ่ง เครื่องโลหะจำนวนหนึ่ง โดยหลังจากนี้ จะได้ประสานไปยังกรมศิลปากรให้เข้าตรวจสอบพระเกศโบราณ และสิ่งของเครื่องใช้โบราณเหล่านี้อีกครั้งหนึ่ง

นายเผือก  คันทรง อายุ 80 ปี อยู่บ้านเลขที่46 หมู่ที่ 4 ต.ย่านซื่อ อ.เมือง จ.อ่างทอง  กล่าวว่า

เรื่องราวที่มีพระจมอยู่ในน้ำเป็นเรื่องเล่าที่สืบทอดกันมาตั้งแต่สมัยปู่ย่า เมื่อก่อนบริเวณแห่งนี้เป็นวัดเก่าแก่และตั้งอยู่เกือบกลางแม่น้ำเจ้าพระยา แต่ด้วยสภาพพื้นที่น้ำกัดเซาะทำให้ริมตลิ่งฝั่งนี้ดินทรุดหายไปเรื่อย ๆ จนวิหารและโบสถ์พังลงแม่น้ำไปทำให้พระที่อยู่ในวิหารและโบสถ์จมลงไปด้วย 

ด้านนางทุเรียน สุขคำผิว อายุ 67 ปี อยู่บ้านเลขที่ 34 หมู่ที่ 4 ต.ย่านซื่อ อ.เมือง จ.อ่างทอง กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวมีอยู่จริง
 
โดยช่วงตนอายุประมาณ 20 กว่าปี ได้มีคนแห่ดำลงไปในแม่น้ำเจ้าพระยา พบพระพุทธรูปจมนอนคว่ำหน้าอยู่ในน้ำ จากนั้นได้มาบอกชาวบ้านและดำลงไปใช้เชือกผู้กับเศียรพระชาวบ้านหลายสิบคนช่วยกันดึงจนเชือกขาดแต่ไม่สามารถดึงขึ้นมาได้ จนมาถึงวันนี้สร้างความตื่นเต้นให้กับตนและประชาชนในละแวกนี้เป็นอย่างยิ่ง ซึ่งพิสูจน์ได้ว่าตำนานที่เล่าขานกันมาจากปู่ย่าตายายเป็นความจริง.


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์