นายเกษมสันต์ จิณณวาโส อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
เปิดเผยเมื่อวันที่ 16 มกราคม ว่า เตรียมทำหนังสือเสนอกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช เพื่อขอให้ปิดอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลันและอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ ต.เกาะพระทอง อ.คุระบุรี จ.พังงา บางส่วน เนื่องจากเกิดปัญหาปะการังฟอกขาวทั้งหมด ส่งผลกระทบต่อประชากรปะการังในพื้นที่ชายฝั่งทะเลอันดามันจนเสียหายมากที่สุดในประวัติศาสตร์ ทั้งปะการังเขากวาง ปะการังวงแหวน ปะการังดาวใหญ่ ปะการังโขดสาเหตุมาจากอุณหภูมิน้ำทะเลที่สูงขึ้นถึงกว่า 30 องศาเซลเซียส ตั้งแต่ช่วงกลางปี 2553 ที่ผ่านมาต่อเนื่องกันถึง 3 เดือนรวมทั้งจากของเสียที่ถูกถ่ายเทลงน้ำ โดยเฉพาะของเสียจากเรือที่จอดอยู่จำนวนมากในบริเวณนั้นๆ รวมทั้งอาจเป็นของเสียที่ไหลซึมผ่านชั้นดิน เพราะปะการังที่เสียในหลายพื้นที่อยู่ไม่ไกลจากที่พักนักท่องเที่ยว และอีกสาเหตุหนึ่งมาจากการท่องเที่ยวที่มีนักดำน้ำไปยืนเหยียบปะการังจนเสียหาย
ดังนั้น อาจกล่าวได้ว่าความเสียหายของแนวปะการังจากการฟอกขาวในครั้งนี้
ก่อให้เกิดความเสียหายรุนแรงมากกว่าความเสียหายจากคลื่นยักษ์สึนามิเมื่อเดือนธันวาคม ปี 2547 ดังนั้น ควรมีการลดผลกระทบโดยเฉพาะจากกิจกรรมการท่องเที่ยวที่ส่งผลกระทบต่อแนวปะการัง เพราะพบว่าแนวปะการังหลายบริเวณยังมีนักท่องเที่ยวมาท่องเที่ยวดำน้ำเป็นจำนวนมาก แต่นักท่องเที่ยวยังขาดความรู้ความเข้าใจ
นายสุนันต์ อรุณนพรัตน์ อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ กล่าวว่า ความเสียหายที่เกิดของปะการัง ต้องไปสำรวจก่อน
ถ้าเสียหายมากก็จำเป็นต้องปิดอุทยานฯ ทั้งหมู่เกาะสิมิลันและสุรินทร์ รวมทั้งพีพี อาจเป็นบางจุด แม้เป็นจุดท่องเที่ยวสำคัญและขณะนี้อยู่ในช่วงเทศกาลท่องเที่ยวทางทะเลก็ตาม เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายมาก โดยในวันที่ 20 มกราคม จะลงพื้นที่สำรวจ จ.ภูเก็ต และวันเดียวกัน นายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรี ทส. จะเรียกประชุมหัวหน้าอุทยานแห่งชาติและเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทางทะเลทั้ง 26 แห่งเพื่อรายงานสถานการณ์