"กัมพูชา"ออกแถลงการณ์ระบุดำเนินคดีกับ 7 คนไทยตาม กม.เข้าเมือง ย้ำไม่มีเจตนามุ่งร้ายต่อคนไทย ตม.ยันวีระไม่เคยถูกเขมรจับก่อน29ธ.ค.
มีรายงานว่าเมื่อเวลา 18.00 น.วันที่ 14 ม.ค.โฆษกกระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศของกัมพูชา ได้ออกแถลงการเกี่ยวกับกรณี 7 คนไทย ซึ่งปรากฎอยู่ในเว็ปไซต์ในกระทรวงต่างประเทศกัมพูชา มีสาระโดยสรุปดังนี้ 1 ) เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2553 คนไทยทั้ง 7 คน ได้ข้ามแดนอย่างผิดกฎหมายล้ำเข้ามายังเขตแดนกัมพูชา และถูกจับ ที่นำไปสู่การส่งตัวไปยังศาล เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย ด้านเข้าเมืองผิดกฎหมาย 2 )
เมื่อวันที่ 13 ม.ค. 2554 ศาลกัมพูชาตัดสินใจให้ผู้ต้องหา 2 คนได้รับการประกันตัว ได้แก่ นายพนิช วิกิตเศรษฐ์ และนางนฤมล จิตรวะพัฒนา ด้วยเหตุผลด้านสุขภาพ ซึ่งศาลกัมพูชายังคงพิจารณาเกี่ยวกับการประกันตัวผู้ต้องหาไทยที่เหลือ อีก 5 คน 3 ) ศาลกัมพูชาจะดำเนินคดีนี้เป็นไปตามกฎหมายเข้าเมืองของกัมพูชา และคำนึงถึงความสัมพันธ์อันดีระหว่างไทยและกัมพูชาในปัจจบัน โดยไม่มีเจตนามุ่งร้ายใด ๆ ต่อประชาชนไทย
ตม.ยันวีระไม่เคยถูกเขมรจับก่อน29ธ.ค.
จากกรณีที่มีข่าวว่านายวีระ สมความคิด ประธานกลุ่มเครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติ ที่ถูกทางการกัมพูชาจับกุมในข้อหาเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย และกำลังถูกดำเนินคดีอยู่ในประเทศกัมพูชาในขณะนี้ว่าได้เคยถูกทางการกัมพูชาจับกุมที่บริเวณ จ.สระแก้วมาก่อนหน้านี้แล้วครั้งหนึ่ง จากนั้นนายวีระกับพวกได้ถูกส่งตัวกลับเข้ามาในเขตแดนไทยเมื่อวันที่ 22 ส.ค. 2553 ที่ผ่านมานั้นก่อนที่จะกลับเข้าไปใหม่และถูกจับอีกครั้งเมื่อวันที่ 29 ธ.ค.ที่ผ่านมา
ต่อเรื่องนี้ พ.ต.ต.ศุภโชค พานิชยพงษ์ สว.ตม. จุดผ่านแดนถาวร ด่านช่องสะงำ ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า เท่าที่ตนได้ตรวจสอบข้อมูลเรื่องนี้แล้วนั้น ไม่พบว่า นายวีระ กับพวกเคยถูกส่งตัวกลับเข้ามาในเขตแดนไทยผ่านทางช่องสะงำตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด ซึ่งหากว่ามีการส่งตัวกลับเข้ามาก็จะต้องมีการบันทึกข้อมูลทางราชการเอาไว้เพื่อเป็นหลักฐาน
ส.ว.ตม.ด่านช่องสะงำ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตามเมื่อเร็ว ๆ นี้ ก็มีข่าวว่า นายวีระกับพวกจะพากันเข้าไปในเขตแดนของกัมพูชา ซึ่งตนได้ติดตามข่าวมาโดยตลอด
แต่ว่า นายวีระกับพวกไม่ได้เข้ามาที่บริเวณช่องสะงำแต่อย่างใดและที่ด่านช่องสะงำนี้ ได้มีการส่งตัวชาวกัมพูชาที่หลบหนีเข้าเมืองไทยกลับเข้าไปในเขตกัมพูชาเป็นประจำทุกเดือน ซึ่งชาวกัมพูชาที่ถูกส่งตัวกลับประเทศกัมพูชาจะมีหลายประเภท ทั้งกรณีเมื่อการดำเนินคดีสิ้นสุดแล้ว รวมทั้งการหลบหนีเข้าเมืองไทย ซึ่งการที่ชาวกัมพูชาการหลบหนีเข้าเมืองไทยนั้น ประเทศไทยจะใช้วิธีผลักดันให้ชาวกัมพูชากลับเข้าไปในเขตประเทศของตนเอง ซี่งชาวกัมพูชาที่หลบหนีเข้าเมืองไทย ส่วนมากแล้ว จะพากันไปทำงานในเขตภาคกลาง เนื่องจากว่ามีโรงงานอุตสาหกรรมเป็นจำนวนมากนั่นเอง ในเขตภาคอีสานจะไม่ค่อยมีชาวกัมพูชาเข้ามาหางานทำมากนัก