ผู้สื่อข่าวปัตตานี รายงาน 11 มค.ว่าหลังจากที่ฝนได้หยุดตกมา 3 วันแล้ว บรรยากาศทั่วไปในพื้นที่จังหวัดปัตตานี
ปรากฏว่าท้องฟ้าแจ่มใส แต่ระดับน้ำท่วมปัตตานีสูงขึ้น ขณะที่จังหวัดยะลา และจังหวัดนราธิวาสลดลง เนื่องจาก น้ำจากตอนบนคือจังหวัดยะลา ได้ไหลลงสู่แม่น้ำปัตตานี เพื่อระบายลงสู่ทะเล ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำปัตตานี สูงขึ้น เอ่อล้นตลิ่ง เข้าท่วมบริเวณพื้นที่ราบลุ่ม และ บ้านเรือนประชาชนที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำ ในอำเภอเมือง จ.ปัตตานี และขยายวงกว้าง พื้นที่เดิมที่ยังมีน้ำท่วมคือพื้นที่ ต.ปะกาฮารัง ต.บาราเฮาะ ต.ตะลูโบ๊ะ อ.เมือง น้ำท่วมสูงขึ้นจากเดิม เพิ่มระดับน้ำ 2 เมตร และขยายท่วมในพื้นที่ อ.หนองจิก อ.ยะรัง น้ำได้เข้าท่วมบ้านเรือนราษฏร ได้รับความเดือดร้อนจำนวน 1,500 ครัวเรือน รวมถึง มัสยิด ศูนย์เกษตรตำบล ตาดีกา(ที่เรียนหนังสือเด็กเล็ก) ส่วนโรงเรียนจำนวน 10 โรง ยังต้องปิดอีก
นอกจากนั้น เป็ดไก่ แพะ วัว ตายประมาณ 200 ตัว ต้องนำสัตว์ตั้งไว้ที่สูงพื้นที่เกษตร พืชผักสวนครัว จมในน้ำประมาณ 2,000 ไร่ โดนเฉพาะอ้อย ข้าวโพด ซึ่งพื้นที่ ต.บาราเฮาะปลูกเป็นอาชีพเสียหายกว่า 600 ไร่ ส่วน ถนนในหมู่บ้านไม่สามารถใช้งานได้ ประชาชนใช้เรือเป็นพาหนะได้ทางเดียว ยานพาหนะทั้งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ยังคงตั้งไว้ที่สูงเช่นเดิม เนื่องจากระดับยังสูงขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะที่ ม.2 บ้านจางา ต.ปะกาฮารัง และ ม.8 บ้านบรีดอ ต.บาราเฮาะ อ.เมือง มีน้ำท่วมและท่วมขังตลอด 3 เดือน และท่วมทุกปี ประชาชนเดือดร้อน เมื่อมีน้ำท่วมสูง ประชาชนไม่ออกจากบ้านเพราะลำบากต้องใช้เรือ ทำให้ขาดการติดต่อกับโลกภายนอก งานเกษตรทำงานไม่ได้ เพราะพื้นที่จมน้ำหมด