ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้รับทราบจากชาวพม่าที่ข้ามฟากเข้ามาซื้อสินค้าอุปโภค-บริโภคในพื้นที่ จ.ระนอง ว่า
ขณะนี้ราคาน้ำมันพืชซึ่งเป็นสินค้าจำเป็นที่คนพม่าใช้ประกอบในการปรุงอาหารทั้งน้ำมันปาล์มและน้ำมันถั่วเหลือง มีการปรับราคาจำหน่ายเช่นเดียวกับฝั่งไทย แต่ด้วยปัญหาการขนส่ง รวมทั้งสินค้าน้ำมันปาล์มและถั่วเหลืองที่หาซื้อยาก ทำให้ราคาจำหน่ายต่อขวดในฝั่งพม่ามีราคาสูงมาก โดยใน จ.เกาะสอง ซึ่งอยู่ติดชายแดนด้าน จ.ระนอง ขณะนี้ราคาจำหน่ายน้ำมันปาล์มชนิดขวดอยู่ที่ขวดละ 90-100 บาท แต่หากเป็นจังหวัดที่อยู่ด้านบนขึ้นไป ซึ่งการขนส่งสินค้าเป็นไปด้วยความยากลำบากอาทิ เมาะละแหม่ง ,เมาะลำใย ราคาน้ำมันปาล์มจะอยู่ที่ขวดละ 130-150 บาท
นายนิตย์ อุ่ยเต็กเค่ง ประธานหอการค้าจังหวัดระนอง กล่าวา สถานการณ์น้ำมันปาล์มในประเทศขณะนี้อยู่ในภาวะวิกฤติ เนื่องจากราคาซื้อขายผลปาล์มดิบที่ขยับพุ่งสูงขึ้นถึง กก.ละ 7 บาท ได้เริ่มส่งผลต่อราคาซื้อขายน้ำมันปาล์มขวดที่ผู้ประกอบการประกาศปรับราคาจำหน่ายจากราคาเดิมถึงขวดละ 9 บาท ส่งผลให้ผู้บริโภคต้องแบกรับภาระอีกตัวสินค้า จากปัจจุบันที่ราคาสินค้าแทบทุกตัวมีการขยับราคาสูงขึ้น ในขณะที่รายได้ของประชากรกลับไม่เพิ่มขึ้นหรือเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย อันเป็นผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ทั้งนี้ภาวะวิกฤติดังกล่าวมาจากปริมาณผลผลิตของปาล์มดิบที่ออกสู่ตลาดมีไม่เพียงพอกับความต้องการ อันเป็นผลจากวิกฤตด้านดินฟ้าอากาศ หลายโรงงานต้องหยุดการผลิตเนื่องจากไม่มีวัตถุดิบ แต่คาดว่าในช่วงเดือนมีนาคมหรือเมษายน 2554 สถานการณ์น่าจะเริ่มคลี่คลาย เนื่องจากปริมาณปาล์มดิบจะเริ่มทยอยออกสู่ตลาดมากขึ้น
นายนิตย์ กล่าวต่อไปว่าโครงสร้างราคาของน้ำมันปาล์มที่มีการเปลี่ยนแปลง แต่ในความเป็นจริงไม่มีใครต้องการให้ราคาขายปลีกปรับขึ้นเพราะสินค้าใดก็ตามเมื่อปรับราคาขึ้นแล้วจะลงยาก ดังนั้นรัฐบาลน่าจะหาทางพยุงราคาขายปลีกให้อยู่ในระดับปัจจุบันน่าจะดีกว่าที่ปล่อยให้ผู้ประกอบการขยับราคาขายปลีกเช่นขณะนี้
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
