ทางการไต้หวันกล่าววันนี้ (6 มค.) ว่า ได้เตรียมแก้เผ็ดบุคคลที่ "หลีกเลี่ยงภาษีซ้ำซาก" โดยพิจารณาจากกิจกรรมในชีวิตประจำวันที่เห็นว่า "เป็นการสิ้นเปลือง" ซึ่งรวมถึง "การห้ามขึ้นรถแท็กซี่"
โดยเจ้าหน้าที่กระทรวงยุติธรรมไต้หวันกล่าวว่า บุคคลจำนวนมากที่ยังคงค้างชำระภาษีที่มีมูลค่ามากกว่า 10 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน (ประมาณ 10 ล้านบาท) แต่ยังพบว่ายังคงใช้ชีวิตอย่างฟุ่มเฟือย จะถูกตัดสินให้ได้รับการลงโทษด้วยกฏหมาย"ต่อต้านความฟุ่มเฟือย"
"เนื่องจากบุคคลเหล่านั้น ยังคงค้างเงินภาษีกับรัฐเป็นจำนวนมาก ดังนั้นพวกเขาจึงถูกสั่งห้ามไม่ให้ใช้จ่ายเงินมากกว่า 2,000 ดอลลาร์ไต้หวันต่อครั้ง ต่อการซื้อสินค้าหรือใช้บริการระบบขนส่งที่มีราคาสูง อาทิ แท็กซี่ และรถไฟด่วน" โดยรัฐบาลจะทำการตรวจสอบการใช้จ่ายเงินของผู้ค้างชำระภาษีซ้ำซาก และกล่าวเตือนว่าผู้ที่ละเมิดคำสั่งดังกล่าวอาจถูกลงโทษด้วยการจำคุก
ปีที่แล้ว ทางการไต้หวันได้ร่างกฏหมาย "ต่อต้านการใช้จ่ายฟุ่มเฟือย" เพื่อบังคับใช้กับผู้ค้างชำระภาษี หลังจากมีผู้ออกมาเรียกร้องหลังพบว่ามีมหาเศรษฐีรายหนึ่งซึ่งค้างชำระภาษีถึง 300 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน (300 ล้านบาท) ยังคงใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือยด้วยการซื้อสินค้าแบรนด์เนมจำนวนมาก
ในขณะที่สัปดาห์ที่ผ่านมา ทางการไต้หวันได้เปิดเผยรายชื่อของผู้ที่มีการค้างชำระภาษีสูงสุดเป็นครั้งแรก และเรียกร้องให้ประชาชนคอยเป็นหูเป็นตา เพื่อคอยสอดส่องพฤติกรรมการใช้จ่ายของบุคคลกลุ่มดังกล่าว