เมื่อวันที่ 5 ม.ค. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.สาธารณสุข กล่าวภายหลังประชุมคณะกรรมการควบคุมยาสูบแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2554
ว่าที่ประชุมมีมติให้แก้ไขพ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ.2535 ประเด็นสำคัญคือ จะมีการแก้ไขมาตรา 4 ที่ระบุว่า ห้ามมิให้ผู้ใดจำหน่าย ขาย แลกเปลี่ยน หรือให้ผลิตภัณฑ์ยาสูบ แก่บุคคลซึ่งตนรู้อยู่ว่าผู้ซื้อหรือผู้รับเป็นผู้มีอายุไม่ครบ 18 ปีบริบูรณ์ เป็น 20 ปีบริบูรณ์ โดยผู้ที่ฝ่าฝืนจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน ปรับไม่เกิน 2,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นอกจากนี้จะปรับแก้คำนิยาม โดยเพิ่มข้อความว่า "ผลิตภัณฑ์ที่มีสารนิโคตินเป็นส่วนประกอบ" ให้ถือว่าเป็นผลิตภัณฑ์ยาสูบทั้งหมด
และเพิ่มนิยามคำว่า "ขาย" หมายความรวมถึงการจำหน่าย จ่าย แจก แลกเปลี่ยน ให้ ห้ามขายโดยใช้เครื่อง ขายทางอินเตอร์เน็ต ห้ามแบ่งขาย ห้ามลดราคาเพื่อประโยชน์ทางการค้า นอกจากนั้นเพิ่มเติมนิยามคำว่าโฆษณา ให้รวมถึงการสื่อสารทางการตลาดด้วย ไม่ใช่แค่การโฆษณาทั่วไป ผู้ฝ่าฝืนมีโทษปรับไม่เกิน 200,000 บาท และหากเป็นผู้ผลิตฝ่าฝืนเองจะมีโทษปรับไม่เกิน 400,000 บาท
นายจุรินทร์กล่าวว่า จะมีการออกกฎกระทรวงเพิ่มเติมคือ
1.เรื่องบุหรี่ปลอดไฟไหม้ ซึ่งเป็นบุหรี่ที่ใช้กระดาษชนิดที่ดับเร็วกว่าปกติ ซึ่งปกติบุหรี่ทั่วไป หากไม่สูบจะดับเองภายใน 10 นาที แต่กระดาษชนิดที่จะบังคับใช้ใหม่ จะดับไฟเองภายใน 2 นาที โดยปัจจุบันประเทศสหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย มีการบังคับใช้แล้ว ซึ่งจะแก้ปัญหาไฟไหม้จากบุหรี่และทำให้ควันลดลงด้วย คาดว่าระยะเวลาที่จะประกาศใช้กฎหมายภายใน 4 เดือน และจะมีผลบังคับใช้ภายใน 365 วันหลังวันที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ทั้งนี้จะเพิ่มกฎกระทรวงเรื่อง ห้ามเติมสารปรุงแต่งในบุหรี่ เพื่อจูงใจให้มีผู้สูบเพิ่มขึ้น หรืออาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ โดยกำหนดว่าบุหรี่ที่ผลิตหรือจำหน่ายในประเทศนั้นจะต้องไม่เติมสารที่ทำให้เข้าใจว่าเป็นผลดีต่อสุขภาพ
"การเพิ่มอายุของผู้ที่จะซื้อบุหรี่นั้น เชื่อว่าจะช่วยลดจำนวนผู้สูบบุหรี่ลงได้ 10% จากเดิมที่ในปัจจุบันประเทศไทยมีผู้สูบบุหรี่อยู่ประมาณ 20% และหากกฎกระทรวงว่าด้วยบุหรี่ปลอดไฟไหม้มีผลบังคับใช้ ประเทศไทยจะเป็นประเทศแรกในทวีปเอเชียที่บังคับให้มีการผลิตและจำหน่ายบุหรี่ดังกล่าวในประเทศ คาดว่าประมาณ 4 เดือนจะประกาศใช้กระทรวงดังกล่าวได้" นายจุรินทร์กล่าว