ตะลึงนักโทษแสบยัดโทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง ซ่อนในรูทวาร เผยไล่ออกคาดโทษผู้คุมเอี่ยวแก๊งค้ายากว่า 20 ราย
วันนี้ (30 ธ.ค.) นายชาติชาย สุทธิกลม อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวถึงมาตรการกวาดล้างยาเสพติดในเรือนจำทั่วประเทศ ว่า ปัญหาเครือข่ายค้ายาเสพติดในเรือนจำเป็นปัญหาที่แก้ไขยาก แต่กรมราชทัณฑ์ได้จำแนกผู้ต้องขังคดียาเสพติดรายใหญ่ที่ยังมีอิทธิพลและพฤติการณ์สั่งซื้อขายยาเสพติดได้มาควบคุมเป็นพิเศษใน 3 เรือนจำความมั่นคงสูง คือ ทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง แดน 10 เรือนจำกลางคลองเปรม แดน 2 และเรือนจำกลางบางขวาง แดน 4 ซึ่งยอมรับว่าในเรือนจำกลางคลองเปรมมีปัญหามาก เนื่องจากใน แดน 2 มีผู้ต้องขังมากถึง 800 คน กรมราชทัณฑ์จึงได้ปรับปรุงแดนคุมขังด้วยการประมวลข้อมูลและวิเคราะห์ข่าวก่อนจะคัดย้ายให้เหลือเฉพาะผู้ต้องขังรายสำคัญในแดน 2 เรือนจำกลางคลองเปรมไม่เกิน 200 คน อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่าสภาพการค้ายาบ้าและยาไอซ์แตกต่างจากเครือข่ายการค้าเฮโรอีน เพราะยาบ้าและยาไอซ์ไม่จำเป็นต้องมีนายทุนชัดเจน เพราะยาบ้ามีตลาดกว้างผู้ค้ารายย่อยทุกคนสามารถเลื่อนชั้นขึ้นมาเป็นรายใหญ่ได้ตลอดเวลา เนื่องจากเทคโนโลยีการติดต่อสื่อสารและการทำธุรกรรมการเงินผ่านตู้เอทีเอ็มช่วยอำนวยความสะดวกให้กับเครือข่ายยาเสพติด
นายชาติชาย กล่าวอีกว่า รัฐบาลมีนโยบายชัดเจนและกำชับมายังกรมราชทัณฑ์เพื่อให้ปราบปรามยาเสพติดอย่างเข้มงวด โดยสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด(ป.ป.ส.)ได้ทำแผนระยะสั้น 10 เดือน เริ่มตั้งแต่ม.ค. 2554 เป็นต้นไป จะมีทั้งการจู่โจมตรวจค้นก่อนปีใหม่ เพื่อป้องกันการสะสมอาวุธ เหล้าหมัก ยาเสพติด เข้มงวดการส่งสิ่งของเข้าออก ส่วนข้าราชการหากพบว่ามีส่วนได้ส่วนเสียกับการอำนวยความสะดวกให้นักโทษนำสิ่งของผิดกฎหมายและโทรศัพท์มือถือเข้าไปในเรือนจำจะถูกลงโทษขั้นเด็ดขาดทั้งทางวินัยและอาญา
“เรื่องโทรศัพท์มือถือในเรือนจำผมไม่เคยปฏิเสธว่าไม่มี ต้องยอมรับว่าโทรศัพท์มือถือเป็นความช้ำใจของฝ่ายปราบปราม ตรวจสอบข้อมูลไม่ได้เพราะใช้ระบบเติมเงิน ทำให้โทรศัพท์มือถือกลายเป็นปัจจัยที่ 5 ในเรือนจำไปแล้ว โดยในปีนี้ตรวจค้นยึดมาได้กว่า 3,000 เครื่อง นักโทษจะลักลอบนำเข้าและเก็บซ่อนแบบพิสดารด้วยการยัดโทรศัพท์เข้าไปในรูทวาร บางรายตรวจค้นล้วงออกมาได้ถึง 3 เครื่อง โดยโทรศัพท์ถูกใช้เป็นเครื่องมือสื่อสารสั่งยาบ้าและยาไอซ์ แม้ในเรือนจำจะใช้เงินสดไม่ได้ นักโทษก็ไม่สนใจเพราะการรับจ่ายเงินทำกันนอกคุก นักโทษบางรายที่ถูกจับได้ก็ยอมรับว่าทำไปเพื่อหาเงินให้ครอบครัวทางบ้าน ส่วนยาเสพติดที่ถูกสั่งเข้ามาขายในคุกจะมีราคาสูงกว่าการซื้อขายภายนอก เช่น ยาไอซ์ 4-5 เกล็ด มีราคา 4,000-5,000 บาท” นายชาติชาย กล่าว
นายชาติชาย ยังเปิดเผยถึงสถิติเจ้าหน้าที่ที่ถูกไล่ออกและถูกให้ออกจากราชการ รวมถึงถูกคาดโทษวินัยร้ายแรงจากการเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดและโทรศัพท์มือถือในเรือนจำ ว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 52 -30 ก.ย. 53 นอกจากนี้ยังมีคำสั่งไล่ออกและสอบข้อเท็จจริงเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด 7 คน เกี่ยวข้องกับการลักลอบนำโทรศัพท์มือถือเข้าไปในเรือนจำอีก 7 ราย สำหรับเจ้าหน้าที่ทำงานดีในเรือนจำความมั่นคงสูง กรมราชทัณฑ์เตรียมตั้งเรื่องขอให้มีการคำนวณอาวุโสและอายุราชการทวีคูณเช่นเดียวกับข้าราชการใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งนี้เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับคนทำงาน