11 ฉายาตำรวจดังแห่งปี 2553

เหยี่ยวข่าวอาชญากรรมตั้งฉายา 11 ตำรวจคนดัง แห่งปี 2553 “น้อยแบเบอร์” “มือปราบไผ่เขียว” “กุ๊กกิ๊กแตะต้องได้” “ท่านรองเบรกแตก”

วันนี้ (30 ธ.ค.) ที่สมาคมผู้สื่อข่าวและช่างภาพอาชญากรรมแห่งประเทศไทย นายไพโรจน์ เทศนิยม นายกสมาคมฯ พร้อมด้วยคณะกรรมการบริหารสมาคมฯร่วมกันแถลงข่าว “ฉายาตำรวจ แห่งปี 2553”

นายไพโรจน์ กล่าวว่า สมาคมฯได้ก่อตั้งขึ้นมากว่า 30 ปี มีสมาชิกเป็นผู้สื่อข่าวสายอาชญากรรม กว่า 300 คน จากหนังสือพิมพ์ ทีวี นิตยสาร และวิทยุ การตั้งฉายาตำรวจประจำปี2553 ของผู้สื่อข่าวและช่างภาพสายอาชญากรรมที่ติดตามผลงานและการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจตลอด1 ปีที่ผ่านมา เพื่อสะท้อนความคิดเห็นของสื่อมวลชนต่อการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในปีนี้ทางคณะกรรมการบริหารสมาคมฯและตัวแทนจากผู้สื่อข่าวและช่างภาพสายอาชญากรรมจากสำนักพิมพ์และสื่อต่างๆได้ร่วมประชุมและพิจารณาลงมติให้ฉายาเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีความโดดเด่น และประชาชนให้ความสนใจในรอบปีมี ดังนี้ 

1.พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร. โดยเมื่อวันที่9 ส.ค.53 ที่ผ่านมา การเลือกผู้นำตำรวจคนใหม่ แทนท่าน พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รรก.ผบ.ตร.ในขณะนั้น เมื่อที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) มีมติเป็นเอกฉันท์ให้ พล.ต.อ.วิเชียร  ขึ้นเป็น ผบ.ตร.คนใหม่ ด้วยคะแนน 8 ต่อ 0 เสียงทำให้ท่าน พล.ต.อ.วิเชียร เป็น ผบ.ตร.คนที่ 7 ตามคาดหมายของสื่อมวลชนจึงได้ให้ฉายา “น้อยแบเบอร์”

2.พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติในช่วงปีที่ผ่านมาได้เกิดเหตุคดี“ระเบิด”ป่วนกรุง หลายจุด ทำเอาวุ่นกันทั้งเมือง ทำให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ต้องแต่งตั้ง พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ เป็นหัวหน้าทีมสืบสวนสอบสวน แกะรอย ที่ คลี่คลายปม “คดีบึ้ม!” ที่เกิดขึ้นแล้วรวมถึงสามารถแกะรอยโยงใยเครือข่ายก่อการร้ายที่ก่อเหตุไว้หลายท้องที่และการที่ต้องคอยตามเปิดโปงขบวนการบ่อนทำลายความไม่สงบของประเทศ สื่อมวลชนจึงได้ให้ฉายา “อ๊อดตามเสียงบึ้ม”

3.พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ที่ปรึกษา สบ.10 รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 เป็นนายตำรวจที่ถือว่ามีผลงานโดดเด่น กินใจประชาชนเป็นอย่างมากที่สามารถจัดการขบวนการค้ายาเสพติดในชุมชนไผ่เขียว จ.พระนครศรีอยุธยา และสามารถติดตามคนร้ายในคดียิง “น้องโตมี่” ได้เป็นผลสำเร็จ เล่นเอา นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ถึงกับเอ๋ยปากชม สื่อมวลชนจึงได้ให้ฉายา “มือปราบไผ่เขียว” 

4.พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ ผู้บัญชาการสอบสวนกลาง ถึงแม้การก้าวมาจากเก้าอี้ผู้บังคับการปราบปราม  และรอง ผบช.ก. ผงาดขึ้นเป็นผู้บัญชาการสอบสวนกลาง จะถือว่าใช้เวลาไม่นานนัก แต่ก็ไร้เสียงวิจารณ์ นั่นเพราะสไตล์การทำงานของ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ เป็นที่ยอมรับว่าสร้างความเคลื่อนไหว เปลี่ยนแปลง และคึกคักให้กับหน่วยงานใต้บังคับบัญชาได้เสมอ ด้วยความเชี่ยวชาญในงานตำรวจสมัยใหม่ ประกอบกับองค์ความรู้เกี่ยวกับเทคนิคงานสืบสวนสอบสวนระดับสากล ที่นำมาสู่การปรับวิธีการทำงานของตำรวจไทยให้หันกลับมามองประชาชนเป็นหลักจึงผุดโครงการ "ตำรวจผู้รับใช้ประชาชน" ลดช่องว่างระหว่างตำรวจกับประชาชน ให้หันมาร่วมมือช่วยกันป้องกันเหตุ ดีกว่าเกิดปัญหาแล้วไล่จับกุมคนร้าย สื่อมวลชนจึงได้ให้ฉายา “กุ๊กกิ๊กแตะต้องได้”

5. พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เป็นนายตำรวจที่ขยันทำงานแบบตรงไปตรงมา สุขุม ลุ่มลึก พูดน้อย อ่อนน้อม ถ่อมตัว เป็นมือประสานสิบทิศ และเป็นนายตำรวจที่อ่อนเยาว์ที่สามารถติดยศพลตำรวจโทได้อย่างรวดเร็วแบบไม่ต้องเข้าคิวรอ ขนาดเพื่อนรุ่นเดียวกันบางคนยังเป็นแค่ สารวัตร  ด้วยอายุราชการอีกยาวนานเกือบ 10 ปี คาดว่าตำแหน่ง ผบ.ตร.ไม่ไกลเกินเอื้อม สื่อมวลชนจึงให้ฉายา “น.1 อีซี่พาส”

6. พล.ต.ต.วิสุทธิ์ วานิชบุตร  อดีตรองผู้บัญชาการภาค 9 จากการที่ออกมาแถลงข่าวในหัวข้อ “ฉะ โผตำรวจ นักการเมืองล้วงลูก”แบบถึงพริกถึงขิงไม่กลัวหน้าอินทร์ หน้าพรหมหลังโดนย้ายมาเป็น รองผบช.สำนักงานกฎหมายและคดี โดยกล่าวหาว่า วอลเปเปอร์ มาล้วงลูกการแต่งตั้งนายตำรวจ เพราะตัวเองไปจับบ่อน พล.ต.ต.วิสุทธิ์ ยังบอกว่าผมจะมาแนวใหม่เมื่ออยู่ในกรุ จะดูแลงบฯลับของ ตร. การสั่งซื้อสั่งจ้างของตร. ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎกติกา..สื่อมวลชนจึงให้ฉายา “ท่านรองเบรกแตก”

7.พล.ต.ต.ฉันทวิทย์ รามสูต ผู้บังคับการตำรวจสันติบาล 3 เป็นนายตำรวจที่มีความเก่งในเรื่องการปราบปราม สมัยที่ดำรงตำแหน่งผู้บังคับการสืบสวนนครบาล ได้จัดหน่วยงานเป็นที่หน้าเกรงขามของเหล่ามิจฉาชีพ จับกุมคดีสำคัญๆได้หลายคดี ร่วมถึงการจับกุมยาบ้าเป็นล้านเม็ด เฮโรอีน  ยาไอซ์  ปิดคดีแก๊งปล้นรถขนเงินธนาคาร 16 ล้าน ซึ่งเป็นคดีที่ ตำรวจนักสืบดังๆหลายๆรุ่นติดตามคดีอยู่แต่ก็ไม่สามารถปิดคดีได้ สุดท้าย พล.ต.ต.ฉันทวิทย์  ก็สามารถจับกุมได้ยกแก๊ง เมื่อถึงฤดูโยกย้ายนายตำรวจ กลับถูกย้ายไปอยู่ สันติบาล 3 สื่อมวลชนจึงได้ให้ฉายา “มือปราบตกสำรวจ”

8. พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 เป็นนายตำรวจที่ขยันและมีผลงานในการปราบปรามคนร้ายมาอย่างต่อเนื่อง เป็นเจ้าของโครงการชุด จู่โจมปะ ฉะ ดะทั้งทางบกและทางน้ำ ล่าสุดได้จัดทำโครงการตำรวจนครบาล 1 พึ่งได้ จัดทำป้ายประชาสัมพันธ์ด้วยข้อความ “ตำรวจนครบาล 1 พึ่งได้” ติดตั้งตามจุดสำคัญ ๆ ที่เห็นเด่นชัด ในพื้นที่รับผิดชอบ เพื่อเป็นสัญลักษณ์ประชาคมให้กับประชาชนในพื้น และเป็นที่พึ่งของประชาชนอย่างแท้จริง เพื่อดึงความเชื่อมั่น และศรัทธาของประชาชนที่มีต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจให้กลับคืนมาจนมีผู้ใหญ่หลายท่านพอใจ สื่อมวลชนจึงได้ให้ฉายา “แต้ม..พึ่งได้”

9.พล.ต.ต.เพ็ชร์ลูก เสียงก้อง อดีต ผบก.ภ.จว.ตาก ต้องตกเป็นจำเลยของสังคมเมื่อคลิปภาพฉาวนัวเนียตำรวจสาวถูกส่งแพร่ทางอินเตอร์เน็ต จน พล.ต.ต.เพ็ชร์ลูก ออกมายอมรับว่าเป็นตัวเองจริง แต่ เป็นกระบวนการจ้องทำลายสร้างและตัดต่อภาพขึ้นมา ส่งผลให้ ตัวเองต้องออกจากราชการไว้ก่อน เพราะถูกคลิปฉาวทำเหตุ สื่อมวลชน จึงให้ฉายา “ผู้การคลิปฉุด”ฉุดให้ออกจากราชการ

10.พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ ผู้บังคับการกองปราบปราม  ตำแหน่งผู้การกองปราบฯ มีอำนาจบารมีครอบคลุมทั่วราชอาณาจักร ผู้ที่จะมาเป็น ผบก.ป.จะต้องเป็นบุคคลที่ไว้วางใจจากผู้บังคับบัญชา พล.ต.ต.สุพิศาล เป็นนายตำรวจที่มีผลงานโดดเด่น พิชิตคดีดังๆได้หลายคดี จนเป็นที่รู้จักของประชาชน ยึดหลักการทำงาน แบบ อย่าง พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ ผู้บัญชาการสอบสวนกลาง จึงได้รับฉายา “ผู้การนอมินี”

11.พล.ต.ต.ประวุฒิ ถาวรศิริ  โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ผ่านมาโฆษกจะต้องเป็นผู้ประสานงานทั้งในและนอกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สร้างภาพพจน์ที่ดีแก่หน่วยงานที่สำคัญจะต้องประสานงานกับสื่อมวลชนเข้าถึงสื่อ ที่ผ่านมา พล.ต.ต.ประวุฒิ ก็ทำงานอยู่ในระดับหนึ่ง จึงได้รับฉายา “โฆษกเสียงเบา”



เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์