ยกฟ้องหมอไพศาลไบโอคลินิก

ยกฟ้องหมอไพศาลไบโอคลินิก ฉีดซิลิโคน ศาลชี้เป็นเพียงการสาธิต ไม่มีความผิด

วันนี้ (29 ธ.ค.) ที่ห้องพิจารณา 811 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาคดีดำ อ.150 / 2553ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร 2 เป็นโจทก์ฟ้อง นาวาอากาศตรีนายแพทย์กวีวัธน์ หรือ ไพศาล หรือไกรวิชญ์  เฮงสวัสดิ์  อายุ 44  ปี เจ้าของสถานเสริมความงามไบโอคลินิก ย่านสะพานใหม่ เป็นจำเลยในความผิดฐานผลิตยาโดยไม่ได้รับอนุญาต  ฟ้องโจทก์เมื่อวันที่14 ม.ค. 53  ระบุความผิดสรุปว่า

เมื่อระหว่างวันที่ 1 มิ.ย. – 2 ก.ค. 47 ต่อเนื่องกัน ซึ่งวันเวลาใดไม่ปรากฏชัด จำเลยได้นำซิลิโคนแบบเป็นแท่ง แบบสาย แบบท่อ แบบเม็ด

และแบบที่ใช้เป็นอุปกรณ์ช่วยระบายน้ำในสมอง  มาทำให้มีขนาดเล็กแล้วบรรจุในกระบอกยิงพลาสติกหรือเข็มเหล็กโดยใช้ตัวพา ผสมและนำไปฆ่าเชื้อ เพื่อฉีดเข้าสู่ส่วนต่าง ๆ ของร่างกายมนุษย์ เพื่อให้เกิดผลแก่โครงสร้างหรือการกระทำหน้าที่ใด ๆ ของร่างกายมนุษย์ โดยจำเลยไม่ได้รับอนุญาตจากเลขาธิการอาหารและยา (อย.) เหตุเกิดที่แขวงสีกัน เขตดอนเมือง  กทม.   ขอให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยตาม พ.ร.บ.ยา พ.ศ. 2510  มาตรา 12 ,72(4) 101 และ 122   จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลพิเคราะห์คำเบิกความและพยานหลักฐานทั้งสองฝ่ายที่นำสืบหักล้างกันแล้ว ข้อเท็จจริงจากการนำสืบรับฟังได้ว่า  การตัดซิลิโคนบรรจุลงในกระบอกฉีดยา และทดลองฉีดให้ดูนั้น เป็นเพียงการสาธิต จึงไม่เป็นความผิด นอกจากนี้พยานหลักฐานโจทก์ก็ไม่พบ และยึดซิลิโคนที่ตัดเป็นชิ้นเล็ก ๆ บรรจุในหลอดเป็นของกลางได้  พยานหลักฐานโจทก์จึงไม่มีน้ำหนักพอที่จะลงโทษจำเลยได้ พิพากษายกฟ้อง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 17พ.ย. 51  ศาลอาญา ได้พิพากษา ยกฟ้อง นพ.ไพศาล คดีที่อัยการฝ่ายคดีอาญา 8

และนายเจษฎา วิวัฒนานุกูล บุตรชายนางรวีวรรณ เสตะรัต (เสียชีวิตแล้ว) เหยื่อศัลยกรรมใบหน้า ร่วมกันเป็นโจทก์ ฟ้อง นพ.ไพศาล  หรือกวีวัธน์ เฮงสวัสดิ์ เจ้าของสถานความงามไบโอคลีนิค  เป็นจำเลยในความผิดฐานฉ้อโกงประชาชนและกระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส โดยระหว่างเดือน เม.ย. 2546   -  ก.พ. พ.ศ.2548 นางรวีวรรณ เข้ารับบริการศัลยกรรมจมูก และดวงตา โดยการฉีดสารไบโอพลาสติก ที่สถานเสริมความงามไบโอคลีนิก สาขา ดอนเมือง ของจำเลย จนใบหน้าได้รับความเสียหาย

ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐาน เห็นว่าหลังจากที่นางรวีวรรณ เข้ารับการศัลยกรรมจมูก และผ่าตัดแก้ไขการศัลยกรรมที่คลินิกของจำเลยแล้ว

ระหว่างนั้น นางรวีวรรณ ได้เข้ารับการรักษาฝ้าบนใบหน้าด้วยการฉีดเลเซอร์ ซึ่งแพทย์ ศัลยกรรมทั้งในส่วนของพยานโจทย์ และพยานจำเลย ต่างเบิกความสอดคล้องต้องกันว่า ระหว่างการรักษาหากมีการฉีดเลเซอร์ จะทำให้เป็นการรบกวนเนื้อเยื่อที่ศัลยกรรม และทำให้เกิดเนื้อแข็งเป็นไต และสีคล้ำ ลักษณะอาการ ที่พบบนใบหน้าของนางรวีวรรณ พยานโจทก์ และโจทก์ร่วมที่นำสืบมา จึงยังไม่มีเหตุผลและน่าเชื่อถือเพียงพอ จึงพิพากษายกฟ้อง.