กำไรทองคำปีนี้พุ่งบาทละ 2,700 บาท

กรุงเทพ ฯ 29 ธ.ค. - นายจิตติ ตั้งสิทธิภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ เปิดเผยว่าในปี 2553 เป็นปีทองของนักลงทุนทองคำ

เนื่องจากราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นโดยตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาราคาทองคำในตลาดโลกอยู่ที่ระดับ 1,098 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ และสูงสุดในรอบปีนี้ที่ระดับ 1,390 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หรือเพิ่มขึ้น 292 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ขณะที่ราคาขายในประเทศก็ปรับเพิ่มขึ้นเช่นกันจากต้นปีที่ 17,450 บาท เป็นสูงสุดที่ 20,150 บาท หรือเพิ่มขึ้น 2,700 บาท ซึ่งนักลงทุนทองคำส่วนใหญ่มีกำไรและทำกำไรได้หลายรอบในปีนี้ ทำให้พฤติกรรมของผู้ซื้อทองคำเปลี่ยนแปลงไป จากการซื้อทองคำเพื่อเก็บสะสม เป็นการซื้อทองคำเพื่อเก็งกำไร โดยมีสัดส่วนซื้อเพื่อเก็งกำไรเพิ่มขึ้นร้อยละ 50 ทำให้การนำเข้าและส่งออกทองคำในรอบ 11 เดือน สูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยมีการนำเข้ามากถึง 180 ตัน และ ส่งออกทองคำ 170 ตัน เหลือทองคำอยู่ในประเทศเพียง 10 ตันเท่านั้น จากในอดีตที่มีการส่งออกทองคำเพียง 20 – 30 ตัน

“นักลงทุนนิยมซื้อทองคำแท่งเพื่อเก็งกำไร เพราะราคาผันผวนและ สามารถทำกำไรได้หลายรอบ และไม่นิยมซื้อทองรูปพรรณเพื่อเก็บสะสมเหมือนในอดีต ลักษณะการลงทุนเป็นการซื้อและขายทำกำไรหมุนเวียน ทำให้วอลุ่มใหญ่ขึ้น และมีปริมาณทองคำเหลือในประเทศน้อยลง” นายจิตติ กล่าว

สำหรับบรรยากาศการซื้อทองคำเป็นของขวัญปีใหม่ 2554 นั้น

นายจิตติ กล่าวว่ายอดการซื้อทองคำเพื่อเป็นของขวัญของบริษัทเอกชนและประชาชนทั่วไปลดลงมาก ประมาณร้อยละ 50 หากเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา เนื่องจากทองคำมีราคาแพงขึ้น แต่ร้านค้าทองก็ต้องปรับตัว เพราะคนนิยมซื้อทองคำแท่งถึงร้อยละ 90 ทองรูปพรรณ ร้อยละ 10 โดยหันมาทำทองคำแท่งที่มีขนาดเล็กลง มีราคาตั้งแต่ 2,500 บาทขึ้นไป หรือน้ำหนักประมาณ ครึ่งสลึง หนึ่งสลึง 50 สตางค์ และ 1 บาท โดยในช่วงนี้ดีไซน์ทองคำแท่งรูปกระต่ายรับปีเถาะ 2554 ซึ่งได้รับความสนใจจากประชาชน .-สำนักข่าวไทย


เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์