แห่ทำสังฆทานรับปีใหม่

นายสกล แสงมาลี ประธานกรรมการ บริษัท สังฆภัณฑ์ จำกัด เจ้าของห้างสรรพสินค้าสังฆภัณฑ์แห่งแรกในประเทศไทย

เปิดเผยว่า ภาพรวมยอดขายของบริษัทในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้เติบโตสูงถึง 30% จากช่วงปกติ และมียอดลูกค้าเข้ามาใช้บริการในร้านเพิ่มขึ้น 20% หรือมากกว่า 100 คนต่อวัน ถือว่ามียอดขายสูงสุดในรอบ 3 ปี เนื่องจากเข้าสู่เทศกาลปีใหม่ทำให้ลูกค้าต้องการหาซื้อสินค้าไปทำบุญมากขึ้น ประกอบกับสถานการณ์ในบ้านเมือง กลับสู่ความสงบแล้วหลังจากเกิดเหตุวุ่นวายมาตลอดปี ส่งผลให้ลูกค้าอยากทำบุญเพื่อเสริมสิริมงคลและกำลังใจในปีใหม่จำนวนมาก
   
ส่วนกลุ่มลูกค้าองค์กรและบริษัทต่าง ๆ ก็จองคิวจัดงานทำบุญบริษัทเพื่อต้อนรับปี 54 เพิ่มขึ้นถึง 10% เมื่อเทียบกับช่วงปกติ โดยกลุ่มลูกค้าของบริษัทจะมีตั้งแต่เด็กจนถึงวัยผู้ใหญ่ รวมทั้งยังมีลูกค้าต่างจังหวัดประมาณ 40-50 จังหวัด นิยมขับรถมาสั่งซื้อสินค้าที่ห้างโดยตรง
   
ส่วนยอดซื้อสินค้าโดยเฉพาะของลูกค้าโดยเฉลี่ยในร้านจะอยู่ที่ 1,000 บาทต่อคนต่อครั้ง ส่วนลูกค้าองค์กรจะมียอดซื้อโดยเฉลี่ย 10,000 บาทต่อครั้ง

และพฤติกรรมการซื้อสินค้าของลูกค้าก็เปลี่ยนไปนิยมซื้อเป็นชุดเลข 9 จำนวนมาก เช่น ชุดสังฆทาน 9 ชุด เป็นต้น จากเดิมจะนิยมซื้อเป็นเลข 5 แสดงให้เห็นว่าลูกค้ามีความตั้งใจที่จะทำบุญจำนวนมาก โดยราคาสินค้าชุดสังฆทานของบริษัทจะเริ่มต้นที่ 299 บาทจนถึงหลักหมื่นบาท ส่วนภาพรวมผลการดำเนินงานของบริษัทในสิ้นปีนี้มียอดขายรวมเติบโต 30% เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ พร้อมกับตั้งเป้าหมายในอีก 3 ปีนับจากนี้จะมีห้างสังฆภัณฑ์เปิดครบทุก 4 มุมเมืองของ กทม. ใช้เงินลงทุนต่อแห่งมากกว่า 50 ล้านบาท จากปัจจุบันมีห้างสังฆภัณฑ์เปิดให้บริการ 1 แห่งที่ ถนนจรัญสนิทวงศ์ 13
   
“ภาพรวมเม็ดเงินในการทำบุญของประชาชนในแต่ละปีคาดว่าจะสูงในหลักหลายหมื่นล้านบาท ตามข้อมูลที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยได้ระบุไว้ และแรงศรัทธาของประชาชนชาวพุทธที่ต้องการทำบุญก็ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาทุกปี”
   
นายธนรัชต์ พสวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง กล่าวว่า ยอดขายทองในร้านฮั่วเซ่งเฮงช่วงปีใหม่คึกคักขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อน

 เป็นผลจากราคาทองคำในปีนี้ที่ปรับตัวสูงขึ้น 10% จากปีก่อน หรือมีราคาสูงสุดในรอบ 10 ปี ทำให้ลูกค้าหันมาลงทุนในทองคำจำนวนมาก และซื้อไว้เพื่อการมอบของขวัญในปีใหม่ลดลง โดยปัจจุบันสัดส่วนลูกค้าเพื่อซื้อไว้ลงทุนมีสัดส่วนสูงถึง 85% และซื้อไว้เพื่อเป็นของขวัญ 15%
   
นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ กล่าวถึงราคาทองคำในเทศกาลปีใหม่ว่า ราคาทองคำจะปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง

ส่งผลให้ประชาชนซื้อทองคำเป็นของขวัญน้อยลงกว่าปีที่ผ่านมา ส่วนราคาทองคำในปี 54 คาดว่าราคาจะผันผวนมาก และมีโอกาสทำสถิติใหม่อีกครั้งในไตรมาสแรก ทำให้ สมาคมฯ คาดว่าราคาทองคำจะทะลุ 20,000 บาท โดยมีปัจจัยต้องติดตามสถานการณ์การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก เนื่องจากหากเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวเร็วและแรงกว่าที่คาดไว้ อาจส่งผลให้เกิดฟองสบู่แตกในสินทรัพย์ทองคำได้
   
นายพิชญา พิสุทธิกุล เลขาธิการสมาคมค้าทองคำ กล่าวว่า แม้ขณะนี้ยังไม่เห็นสัญญาณฟองสบู่ในสินทรัพย์ประเภททองคำ

แต่เชื่อว่าหากราคาทองคำพุ่งสูงขึ้นมากและต่อเนื่อง อาจส่งผลให้มีนักลงทุน หรือกองทุนเทขายทองคำออกมาเพื่อทำกำไรอย่างแน่นอน ซึ่งหากเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นจริงอาจส่งผลให้เกิดฟองสบู่ในสินทรัพย์ทองได้ ขณะที่แนวโน้มการลงทุนทองคำในปี 54 นักลงทุนรายย่อยควรเพิ่มความระมัดระวังในการลงทุน เนื่องจากอาจมีการออกผลิตภัณฑ์การลงทุนโลหะมีค่าในตลาดซื้อขายล่วงหน้าเพิ่มขึ้นอีก 14 รายการ ส่งผลให้กองทุนเก็งกำไรมีเครื่องมือปั่นราคาเพิ่มขึ้น และราคาทองคำผันผวนอย่างหนัก.