นายสนชัย อุ่ยเต็กเค่ง นายกสมาคมผู้ประกอบการธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดระนอง เปิดเผย "ผู้สื่อข่าว" ว่า
จากกระแสข่าวว่าจะเกิดสึนามิในช่วงปลายปี 2553 นี้ โดยเฉพาะในเขตพื้นที่ภาคใต้ตอนบน ปรากฏว่าขณะนี้ได้ส่งผลกระทบต่อภาคการท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะยอดจองห้องพักจากทุกปีที่มียอดจองกว่า 80% แต่ปรากฏว่าในพื้นที่จากการประชุมสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวล่าสุดทราบว่ามียอดจองห้องพักเพียง 10% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา สอบถามกรุ๊ปทัวร์ส่วนใหญ่ทราบว่านักท่องเที่ยวได้เปลี่ยนแปลงเป้าหมายจากพื้นที่ภาคใต้ตอนบนหันไปเที่ยวในเขตพื้นที่อื่นๆแทน
ซึ่งขณะนี้ทางภาคเอกชน และภาครัฐต่างเร่งให้ความมั่นใจกับนักท่องเที่ยวในเรื่องความปลอดภัย การเตรียมความพร้อม และเรื่องระบบการเตือนภัย นอกจากนี้สิ่งที่น่าเป็นห่วงอีกประการคือความตื่นกลัวของคนในพื้นที่ที่พบว่ามีการเคลื่อนไหวที่จะเดินทางออกนอกพื้นที่ในช่วงระหว่างวันที่ 28 - 31 ธ.ค. 2553 นี้ ทั้งนี้เพื่อหลบไปยังพื้นที่ปลอดภัย ซึ่งคาดว่าในช่วงปลายนี้จะทำให้มีคนในพื้นที่จ.ระนองเดินทางออกนอกพื้นที่มากกว่าทุกๆ ปีที่ผ่านมา
“ ต้องยอมรับว่าข้อมูลข่าวสารมีอิทธิต่อการตัดสินใจของประชาชนเป็นอย่างมาก อีกทั้งจ.ระนองยังเป็นจังหวัดที่มีความสำคัญด้านการท่องเที่ยวอยู่ในระดับเกรดซี ยิ่งทำให้การตัดสินใจของนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามายังระนองเปลี่ยนใจได้ทันทีเมื่อมีกระแสข่าวที่ทำให้เกิดความไม่มั่นใจเกิดขึ้น อีกทั้งที่ผ่านมาได้เกิดพิบัติภัยธรรมชาติที่สร้างความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินในหลายพื้นที่ จึงทำให้กระแสข่าวเกี่ยวกับภัยธรรมชาติจะมีผลต่อความรู้สึกได้เร็วกว่าภัยประเภทอื่น ซึ่งพบว่าขณะนี้มีหลายทริปที่แจ้งยกเลิกการเดินทางเข้ามายังจ.ระนอง แต่ในความเป็นจริงทุกพื้นที่ล้วนมีความเสี่ยง สิ่งที่แก้ได้คือความไม่ประมาท มีสติ รู้จักการสังเกต ” นายสนชัย
ดร.สมิทธ ธรรมสโรช ประธานมูลนิธิสภาสภาเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวการเกิดสึนามิในเขตพื้นที่ภาคใต้ โดยเฉพาะทางฝั่งทะเลอันดามันในช่วงปลายปีนี้ว่า ตนพูดมาเสมอว่าไม่มีเทคโนโลยีใดที่ระบุวันเวลาการเกิดสึนามิได้อย่างชัดเจน แต่ถามว่ามีความเป็นไปได้หรือไม่ที่พื้นที่ภาคใต้รวมถึง จ.ระนองจะเกิดสึนามิอีกครั้ง ต้องบอกว่ามีความเป็นไปได้อย่างแน่นอน ทั้งยังมีความเสี่ยงสูงที่จะประสบความเสียหายระลอกใหม่ โดยสิ่งที่นักวิทยาศาสตร์และนักธรณีสิทยา เป็นห่วงมากคือรอยเลื่อนของแผ่นเปลือกโลกในแนวของรอยเลื่อนระนอง และรอยเลื่อนคลองมะรุยที่พาดผ่าน จสุราษฏร์และนครศรีธรรมราช ที่มีความเสี่ยงที่จะเกิดการเลื่อนอีกครั้งเนื่องจากในปี 2547 ที่เกิดเหตุการณ์สึนามิรอยเลื่อนแนวดังกล่าวมีการเลื่อนเพียงครึ่งเดียวจากเกาะนิโคบาถึงเกาะสุมาตร