บางจากตรึงราคาน้ำมันถึงปีใหม่

นายอนุสรณ์ แสงนิ่มนวล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจากปิโตรเลียม กล่าวว่า

ราคาน้ำมันในสัปดาห์นี้อาจจะยังไม่มีการปรับเปลี่ยนราคา และมีแนวโน้มที่จะตรึงราคาต่อเนื่องไปจนถึงช่วงปีใหม่ เพื่อเป็นของขวัญให้กับประชาชน หากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกไม่ปรับตัวสูงขึ้น โดยปัจจุบันค่าการตลาดของน้ำมันดีเซลอยู่ที่ 1.10-1.20 บาทต่อลิตร ซึ่งรัฐบาลมีมาตรการตรึงราคาดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร แต่หากราคาตลาดโลกสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ก็อาจต้องหารือกับกระทรวงพลังงานว่าจะนำเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงมาชดเชยราคาได้หรือไม่ ส่วนค่าการตลาดน้ำมันกลุ่มเบนซินอยู่ที่ 1.50-1.60 บาทต่อลิตร จึงน่าจะยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงราคาในขณะนี้

นายอนุสรณ์กล่าวว่า สำหรับทิศทางราคาน้ำมันตลาดโลกในปีหน้า เชื่อว่าจะไม่เกิน 100 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล

เนื่องจากเศรษฐกิจในยุโรปยังไม่ฟื้นตัวอย่างเต็มที่ ขณะที่การใช้น้ำมันของโลกน่าจะเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ 88 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยราคาน้ำมันกลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์อาจปรับเพิ่มขึ้นในไตรมาสสอง ตามความต้องการใช้ในช่วงหน้าร้อน ขณะเดียวกันยังมีความเสี่ยงจากกองทุนเก็งกำไร (เฮดจ์ฟันด์) ที่มีน้ำมันอยู่ในสต๊อค 170 ล้านบาร์เรล ซึ่งถือว่าสูงมาก และอาจมีการเทขายทำกำไร หากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาออกมาไม่ดีอย่างที่คาดการณ์ และฉุดราคาน้ำมันตลาดโลกให้อ่อนตัวลง

นายอนุสรณ์กล่าวว่า กรณีที่รัฐบาลมีแผนจะปรับขึ้นราคาปิโตรเลียมเหลว (แอลพีจี) หน้าโรงกลั่น จากปัจจุบันกำหนดไว้ที่ 330 ดอลลาร์สหรัฐต่อตันจะเป็นผลดีมากกว่าผลเสีย เพราะหากยังคงตรึงราคาเช่นเดิม ประเทศไทยก็จะต้องนำเข้าแอลพีจีในปริมาณสูงมากขึ้น แต่หากให้โรงกลั่นปรับราคาใกล้เคียงกับราคาตลาดโลก จะทำให้โรงกลั่นผลิตแอลพีจีออกสู่ตลาดมากขึ้น และเมื่อโรงกลั่นมีรายได้และกำไรเพิ่ม จึงมีเงินจ่ายภาษีเข้ารัฐเพิ่มขึ้น และรัฐบาลใช้เงินจ่ายชดเชยการนำเข้าแอลพีจีจากต่างประเทศลดลง

ทั้งนี้ หากมีการปรับราคาแอลพีจีหน้าโรงกลั่น จะทำให้ในช่วงแรกบางจากจะผลิตแอลพีจีได้ 2,000 ตันต่อเดือน แต่จะต้องมีการปรับระบบ โดยนำก๊าซธรรมชาติหรือ เอ็นจีวีเข้ามาใช้ในการผลิตไฮโดรเจนทดแทนแอลพีจี หลังจากนั้นจะผลิตเพิ่มเป็น  4,000-5,000 ตันต่อเดือน