“พาณิชย์” เตรียมไฟเขียวนมยูเอชที-พาสเจอร์ไรซ์บางขนาดขึ้นราคาหลังปีใหม่

เมื่อวันที่ 20 ธ.ค. นางวัชรี วิมุกตายน อธิบดีกรมการค้าภายใน

เปิดเผยว่า กรมอยู่ระหว่างการพิจารณาการปรับขึ้นราคาสินค้านมสดยูเอชทีและนมสดพาสเจอร์ไรซ์หลังจากวันที่ 31 ธ.ค.53 เพราะผู้ประกอบการได้ยื่นขอปรับราคาเข้ามา เพราะได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นราคาน้ำนมดิบให้กับเกษตรกรเพิ่ม 50 สตางค์/กก. ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อต้นทุนนมทั้ง 2 ชนิดเพิ่มขึ้นอีก 12-13 สตางค์ โดยอาจจะให้ปรับขึ้นบางขนาดซึ่งไม่ใช่ขนาดที่นิยมบริโภค เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อประชาชน แต่หากไม่ให้ปรับขึ้นราคาเลยอาจจะส่งผลกระทบต่อเกษตรกร 
 
สำหรับสินค้าปุ๋ยเคมี มีรายการเดียวที่มีต้นทุนสูงขึ้นและกระทบกับเกษตรผู้ใช้ปุ๋ย คือ ปุ๋ยยูเรีย ซึ่งการแก้ไขปัญหาให้กับเกษตรกรนั้น

ขณะนี้กรมกำลังทำเรื่องขออนุมัติงบประมาณจากคณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตร (คชก.) เพื่อขอให้องค์การคลังสินค้า (อคส.) เป็นผู้นำเข้าแม่ปุ๋ยยูเรียจากต่างประเทศประมาณ 1 หมื่นตัน มาผลิตเป็นปุ๋ยธงฟ้า และจำหน่ายให้กับกลุ่มเกษตรกร โดยใช้กลไกจากค้าภายในจังหวัดเป็นผู้กระจายสินค้าให้กับประชาชน เชื่อว่าการแทรกแซงกลไกตลาดดังกล่าวนอกจากจะช่วยเหลือเกษตรกรให้ได้ปุ๋ยราคาถูกลงแล้ว ยังสามารถชะลอการปรับขึ้นของราคาปุ๋ยเคมีในตลาดได้
 
นางวัชรี กล่าวว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจวันนี้  กรมได้มีการรายงานผลกระทบจากค่าเงินบาทแข็งค่า ค่าแรงงาน และราคาน้ำมัน ต่อที่ประชุม

โดยทางนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้สอบถามถึงแนวโน้มการปรับขึ้นราคาสินค้าในต้นปีหน้า กรมได้ชี้แจงว่าสินค้ากว่า 90% จะยังคงตรึงราคาให้อยู่จนถึงมี.ค.ปีหน้า เนื่องจากต้นทุนไม่ผันผวนมากนัก อีกทั้งภาวะการค้าขณะนี้ชะลอตัว มีการแข่งขันสูง ทำให้ผู้ประกอบการปรับขึ้นราคาสินค้าไม่ได้มากนัก ส่วนสินค้าอีก 10% มีบางรายการที่มีปัญหาคือกลุ่มน้ำมันพืช และมะพร้าว ซึ่งนายกฯสั่งการให้ติดตามอย่างใกล้ชิด และหากกลุ่มไหนจำเป็นต้องปรับก็ให้พิจารณาอย่างเป็นธรรม
 
 อย่างไรก็ตาม สินค้า 10% ที่มีต้นทุนพุ่งนั้น ขณะนี้ทางผู้ประกอบการกลุ่มยางรถยนต์ สายไฟฟ้า แบตเตอรี่ ยืนยันที่ตรึงราคาสินค้าออกไปอีก 3 เดือน

เพื่อไม่ให้กระทบกับประชาชนแล้ว ขณะที่สินค้าที่ได้รับอานิสงส์จากค่าเงินบาทแข็งค่านั้น ได้ชี้แจงต่อครม.เศรษฐกิจถึงสาเหตุที่สินค้าไม่ได้ปรับลดราคาลงมา เนื่องจากกรมได้ใช้มาตรการตรึงราคาสินค้ามาตั้งแต่ปลายปี 2552 ต่อเนื่องถึงปัจจุบัน ซึ่งขณะนี้ต้นทุนวัตถุดิบนำเข้าได้ปรับขึ้นไปมาก แต่ก็ไม่ได้มีการปรับขึ้นราคา อีกทั้งค่าเงินบาทแข็งค่าไม่ถึง 1 เดือน ทำให้สินค้ากลุ่มเหล่านี้ไม่ได้ประโยชน์จากค่าบาทเท่าไหร่ จึงไม่ได้มีการปรับลดราคาลงมา
 
 นางวัชรี กล่าวว่า ในวันที่ 22-24 ธ.ค.นี้ กรมจะจัดงาน “มหกรรมสินค้าเกษตร ต้อนรับปีใหม่ 2554” ที่กระทรวงพาณิชย์ สนามบินน้ำ ตามนโยบายของรมว.พาณิชย์ ที่ให้กรมดำเนินการส่งเสริมสินค้าไทยภายใต้โครงการ 12 เดือน 12 โครงการ กินของไทยใช้ของไทย ซึ่งภายในงานจะมีการนำสินค้าเกษตรมาจัดเป็นกระเช้าปีใหม่ และจำหน่ายสินค้าช่วยลดค่าครองชีพให้ผู้ประโภค เช่น หมูเนื้อแดง กก.ละ 90 บาท น้ำมันปาล์ม 37 บาท/ขวด น้ำตาลทราย 22.50 บาท/กก. เป็นต้น