ตร.191โอด พวกโรคจิตชอบโทร.แกล้งไม่เว้นแต่ละวัน เผยสถิติปี 52 มีคนโทร.แจ้งเหตุทั้งหมดเกือบ 2 หมื่นสาย แต่เป็นเหตุด่วนเหตุร้ายจริงๆ แค่ไม่ถึงพันสาย
นอกนั้นเป็นพวกโทร.แกล้ง มีทั้งโทร.จีบตร. ขอเงิน ชวนคุย ไปยันปรึกษาปัญหาหัวใจ ที่น่าตกใจคือเช็กได้ว่าที่ชอบแกล้งส่วนใหญ่ โทร.มาจากตู้โทรศัพท์สาธาณะตามร.ร.ประถม โดยเฉพาะย่านฝั่งธนฯ ส่วนใหญ่เป็นเด็กๆ ชอบเล่นโทรศัพท์ เคยทำหนังสือเตือนไปตาม ร.ร.หลายครั้ง วอนอย่าทำเพราะจะทำให้เสียเวลาในการตรวจสอบเหตุด่วนเหตุร้าย ตร. เช็กได้หมดว่าโทร.จากไหน
เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. พ.ต.อ.สมนึก น้อยคง ผกก.ศูนย์รวมข่าว บก.สปพ.บช.น. หรือ ศูนย์วิทยุ 191 (ศูนย์ผ่านฟ้า) กล่าวถึงปัญหาในการรับแจ้งเหตุด่วนเหตุร้าย ซึ่งที่ผ่านมามักมีพวกป่วนโทรศัพท์แกล้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นประจำ โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลสำคัญ ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเสียเวลาตรวจสอบและเป็นอุปสรรคในการทำงาน
โดยพ.ต.อ.สมนึก กล่าวว่า ในช่วงเดือน ธ.ค.ของทุกปี จะมีเทศกาลเฉลิมฉลอง ห้วงเวลาสังสรรค์และวันหยุดยาวนานอยู่หลายช่วง ตั้งแต่วันที่ 5 ธ.ค.ที่ผ่านมา
ซึ่งตรงกับวันพ่อแห่งชาติ วันที่ 10 ธ.ค. เป็นวันรัฐธรรมนูญ โดยหลังจากนี้ก็จะมีวันคริสต์มาสตรงกับวันที่ 25 ธ.ค. ต่อด้วยเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2554 ในวันที่ 31 ธ.ค.จนถึงเข้าวันที่ 1 ม.ค. 54 ซึ่งจะมีงานรื่นเริงครั้งใหญ่ของกลุ่มคนทุกสาขาอาชีพ จนเป็นเหตุให้เกิดเรื่องราวและคดีต่างๆขึ้นมากมาย ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจศูนย์วิทยุ 191 อยากให้ประชาชนทั่วไปรับทราบว่า เราไม่ได้นิ่งนอนใจและตระเตรียมกำลังพลทั้งพนักงานรับโทรศัพท์และพนักงานวิทยุทุกผลัดให้พร้อมปฏิบัติหน้าที่กันอยู่ตลอด 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จะมีการเพิ่มกำลังเสริมให้มากขึ้นเพื่อให้การปฏิบัติภารกิจสอดคล้องกับจำนวนเหตุการณ์ที่มีประชาชนแจ้งเข้ามามากในช่วงมีการ ชุมนุมทางการเมืองและช่วงวันหยุดทุกเทศกาลอีกด้วย
ผกก.ศูนย์รวมข่าว กล่าวต่อว่า จากสถิติการโทรศัพท์เข้ามาที่หมายเลขโทรศัพท์ 191 เมื่อปีพ.ศ.2552 นั้น มีสายโทร.เข้าทั้งหมด 5,819,607 สาย เฉลี่ยวันละ 15,944 สาย
ทั้งนี้ เป็นการโทร.แจ้งเหตุด่วนเหตุร้ายตามวัตถุประสงค์ของการตั้งศูนย์วิทยุ จริงๆ ตลอดทั้งปี คือ 358,475 สาย เฉลี่ยวันละเพียง 982 สาย กรณีสายหลุดนั้นปีที่แล้วมี 695,135 สาย เฉลี่ยวันละ 1,904 สาย ส่วนสายที่เราต้องบริการ อาทิ สอบถามเบอร์โทรศัพท์หน่วยงานราชการอื่นๆ สอบถามปัญหาเส้นทางเดินรถประจำทาง ปรึกษาปัญหาชีวิต ปรึกษาข้อกฎหมาย ปรึกษาปัญหาหัวใจ และอีกจิปาถะ ทั้งปี มีจำนวน 1,163,812 สาย เฉลี่ยวันละ 3,189 สาย แต่ตัวเลขที่น่าตกใจ คือ ปีที่แล้วมีผู้โทรศัพท์เข้ามาแกล้งหรือโทร.เล่นถึง 3,602,185 สาย เฉลี่ยวันละถึง 9,869 สาย
ซึ่งจากปัญหาดังกล่าว ยืนยันได้ว่า หากในทุกๆ วันประชาชนโทรศัพท์มาแจ้งเหตุกับตำรวจทางเบอร์ 191 เอากรณีที่เป็นเหตุด่วนเหตุร้ายจริงๆ ก็จะสามารถรับมือกับทุกปัญหาได้อยู่แล้ว
เนื่อง จากในห้วงเวลาปกติเราได้เตรียมพนักงานรับโทรศัพท์เอาไวัผลัดละ 8 คน ตลอด 24 ชั่วโมง หากเป็นห้วงเวลาเร่งด่วนหรือมีเทศ กาลงานสำคัญต่างๆ ก็จะเพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่ขึ้นไปอีก โดยใช้เวลาเฉลี่ยต่อการรับเรื่องราว 1 เรื่อง จนถึงการแจ้งเหตุไปยังสถานีตำรวจท้องที่ให้ช่วยไปตรวจสอบเต็มที่ไม่เกิน 1 นาที เพราะเจ้าหน้าที่ทุกคนที่นี่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญอยู่แล้ว แต่ที่เป็นอุปสรรคต่อการทำงานก็คือมีพวกวิกลจริตโทรศัพท์เข้ามาแกล้งพนักงาน รับโทรศัพท์ตลอดทั้งวัน
นอกจากนี้ ยังมีสายอื่นๆ ที่โทรศัพท์เข้ามาขอคำปรึกษากับตำรวจซึ่งเราก็ไม่เคยปฏิเสธ จึงทำให้ชาวบ้านที่กำลังเดือดร้อนจริงๆ ไม่สามารถติดต่อหมายเลข 191 ได้อย่างทันท่วงที
"ทุกปลายสายที่มีการโทรศัพท์เข้ามาที่เบอร์ 191 สามารถตรวจสอบได้ทั้งหมด ไม่ว่าท่านจะใช้โทรศัพท์มือถือ โทรศัพท์บ้าน หรือตู้สาธารณะที่ไหนก็ตรวจสอบได้ สถิติที่ตกใจอีกเรื่องคือ เมื่อปีที่แล้ว เราตรวจสอบพิกัดของพวกโทร.ป่วนปรากฏว่า กว่า 70% มาจากตู้โทรศัพท์สาธารณะในโรงเรียนประถม ยิ่งสถาบันย่านฝั่งธนฯจะมีเยอะมาก เข้าใจว่าเด็กช่วงอายุระหว่าง 10-13 ปี นั้นคงจะเริ่มอยากคุยโทรศัพท์ และส่วนใหญ่ยังไม่มีมือถือพอนึกสนุกก็จับกลุ่มกับเพื่อนๆ โทร.มาที่หมายเลข 191 เพราะเป็นเบอร์โทรฟรีและเมื่อพนักงานรับสายแล้วก็จะมีมุขแหย่ตำรวจเล่นมากมาย เช่น แจ้งเหตุไฟไหม้หน่อยครับไฟไหม้ที่หัวไม่ขีดตามด้วยเสียงเฮแล้ววางสายไป บางรายก็บอกพบศพครับ พบศพสัปเหร่อกำลังจะนำขึ้นเมรุ บางทีโทร.มาบอกคุณตำรวจครับขอเงินจ่ายค่าเทอมหน่อย ยิ่งช่วงนี้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจหญิงวัยรุ่นจบมาใหม่ๆ มาช่วยรับโทรศัพท์ก็กลายเป็นโทร.มาจีบทำให้ประชาชนที่เดือดร้อนจริงๆ ไม่สามารถติดต่อเราได้" พ.ต.อ.สมนึก กล่าว
พ.ต.อ.สมนึก กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาเราไม่อยากบังคับใช้กฎหมายแม้ข้อหาก่อให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญ จะเป็นเพียงลหุโทษ แต่ก็ไม่อยากทำให้เด็กๆ ต้องหวาดกลัวหรือเกลียดตำรวจ
หากสืบหาต้นตอจนนำไปสู่การควบคุมตัวไปปรับ ดังนั้น ทางพล.ต.ต. ธนพล สนเทศ ผบก.สปพ. จึงได้ทำจดหมายส่งไปให้ผู้บริหารสถานศึกษาเหล่านั้นเพื่อชี้แจงปัญหาให้ทราบ ท่านระบุพิกัดไปบอกเลยว่า ตู้โทรศัพท์บริเวณหน้าโรงอาหาร หน้าห้องสมุด หรือตรงจุดไหนที่เด็กชอบใช้โทรศัพท์มาแล้วตำรวจจากศูนย์วิทยุ 191 ของเราไปเป็นวิทยากรหน้าเสาธงบอกให้เด็กๆ รู้ถึงโทษการเล่นพิเรนทร์แบบนี้ ซึ่งทางผู้บริหารตามโรงเรียนก็เข้าใจ ล่าสุดตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 53 จนถึงวันที่ 31 ต.ค. 53 มีสถิติการโทร.เข้ามาแหย่ตำรวจลดลงกว่าครึ่งคือ เหลือแค่วันละประมาณ 4,008 สาย ถือว่าได้ผลดีพอสมควร
ด้านพ.ต.ท.ชูชาติ มีแสง สว.ชุดปฏิบัติการที่ 4 หนึ่งในผู้ควบคุมศูนย์วิทยุ 191 กล่าวว่า
อยากแนะนำเทคนิคที่ง่ายที่สุดสำหรับผู้ที่โทรศัพท์เข้ามาแจ้งเหตุยังหมายเลข 191 แล้วสายไม่ว่างว่า ท่านควรจะถือสายโทรศัพท์เอาไว้ก่อนหากพนักงานรับโทรศัพท์กำลังให้บริการอยู่ หมายเลขของท่านจะโชว์ขึ้นที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ของนายตำรวจเวรควบคุมศูนย์ขณะนั้น ว่าท่านกำลังต่อคิวรอสายเป็นจำนวนที่เท่าใด ถ้านายตำรวจเวรเห็นว่าคิวยาวมากเกินไปก็จะสั่งการให้พนักงานรับโทร ศัพท์เร่งรัดเวลาวางสายที่กำลังให้บริการอยู่ เพื่อส่งสายของท่านให้รันนิ่งขึ้นมาอยู่ในอันดับต้นๆ จนได้รับบริการ แต่ในทางกลับกัน หากท่านโทร.เข้ามาแล้ววางทันทีที่สายไม่ว่างเมื่อกดหมายเลขเข้ามาใหม่ท่านก็จะต้องไปต่อคิวอยู่ท้ายสายอื่นๆ ทุกครั้ง ยิ่งในช่วงเทศกาลหรือห้วงเวลาที่มีการแจ้งเหตุหนาแน่นคือ ประมาณ 14.00-22.00 น. ของทุกวันก็จะทำให้ท่านไม่ได้รับบริการเสียที