ดช.13 พิจิตรตามหาพ่อ-ซ้ำรอยเคโงะ

หาพ่อ- ด.ช.วัชระ สังข์กร หรือน้องก๊อต อายุ 13 ปี อาศัยอยู่กับปู่ย่า
ที่อ.วชิรบารมี จ.พิจิตร ออกมาตามหาพ่อแม่ที่ทิ้งไปตั้งแต่แบ เบาะ
คล้ายกับกรณีด.ช.เคอิโงะ ซาโต ที่เคยติดตามหาบิดาชาวญี่ปุ่น เมื่อปีที่ผ่านมา

พิจิตรมี'เค โงะ2'อีกคนคราวนี้เป็น'น้องก๊อต'หนูน้อยหน้าตาคมเข้มออกมาร้องตามพ่อ ปู่เผยลูกชายเอามาทิ้งไว้ให้เลี้ยงตั้งแต่ 9 วัน โดยไม่ยกเป็นลูกตัวเองหรือลูกใคร กลายเป็นเด็กไร้สัญชาติได้แต่บัตรผู้ไม่มีสถานะทางทะเบียน เสียสิทธิ์เรียน-รักษาพยาบาล ด้านน้องก๊อตครวญอยากกอดพ่อแม่ และไม่โกรธที่ถูกทิ้ง เชื่อว่าพ่อต้องมีเหตุผล

เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านหมู่ที่ 10 บ้านโนนไร่ ต.หนองหลุม อ.วชิรบารมี ว่ามีเด็กชายมีหน้าตาคล้ายคนเชื้อแขก และชาวบ้านเลี้ยงมาตั้งแต่แรกเกิด อยากตามหาพ่อแม่ที่แท้จริง จึงไปตรวจสอบ โดยบ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านของนายหวล สังข์กร อายุ 70 ปี อยู่บ้านเลขที่ 101/2 หมู่ที่ 10 บ้านโนนไร่ ปู่ของด.ช.วัชระ สังข์กร หรือ 'น้องก๊อต' อายุ 13 ปี นักเรียนชั้น ม.1 โรงเรียนวชิรบารมีพิทยาคม มีลักษณะผิวดำ ใบหน้าคมเข้ม

นายหวลกล่าวว่า เมื่อปี 2539 นายวิชิต สังข์กร ลูกของตนเองที่ไปทำงานก่อสร้างที่กรุงเทพฯ ได้นำตัวด.ช.วัชระ ซึ่งหน้าตาคล้ายคนเชื้อสายแขกมาให้ตนเองเลี้ยงตั้งแต่อายุ 9 วัน โดยไม่ได้บอกว่าเป็นลูกใคร โดย ตนตั้งชื่อว่าดช.วัชระ ต่อมาได้ไปขอสัญชาติจากทางอำเภอ ปรากฏว่าทางอำเภอไม่สามารถขึ้นสัญชาติไทยให้ได้ เนื่องจากไม่รู้ว่าพ่อแม่เด็กเป็นใคร อำเภอออกให้เป็นเพียงบัตรผู้ไม่มีสถานะทางทะเบียน

นายหวลกล่าวว่า ที่ผ่านมาได้ติดต่อนายวิชิตลูกชาย แต่ก็หายสาบสูญติดต่อไม่ได้ถึงวันนี้เป็นสิบปีแล้ว ทุกวันนี้ด.ช.วัชระอยากจะรู้ว่าพ่อแม่ที่แท้จริงเป็นใครเป็นคนไทยหรือเป็นคนต่างชาติ และรบเร้าให้ตามหานายวิชิตเพื่อถามความจริง แต่ไม่รู้จะตามที่ไหน

ด้านด.ช.วัชระกล่าวว่า อยู่กับปู่กับย่ามา ตั้งแต่เด็ก อยากเจอพ่อวิชิตมาก เพราะเป็นกุญแจสำคัญที่จะรู้ว่าพ่อแม่ที่แท้จริงเป็นใคร ทำไมทิ้งตน แต่ไม่ได้โกรธเพราะเขาคงมีเหตุผล อยากเจอพ่อแม่ที่แท้จริงมากที่สุดอยากกอดพ่อกอดแม่ อยากมีพ่อแม่เหมือนคนอื่นเขา

นายนิกร เขื่อนเพชร ผู้ใหญ่บ้านโนนไร่ กล่าวว่า ถึงวันนี้เด็กยังไม่มีสัญชาติไทย เพราะไม่รู้ตัวบิดามารดา ทางอำเภอได้ออกบัตรประจำตัวผู้ไม่มีสถานะทางทะเบียน ซึ่งจะทำให้เสียสิทธิต่างๆ โดยเฉพาะการเรียนและรักษาพยาบาล จึงอยากให้ผู้ที่เป็นพ่อแม่ที่แท้จริงมาพบ เพื่ออนาคตของเด็กต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้เมื่อปี 2552 ที่จ.พิจิตร เคยมีกรณีด.ช.เคอิโงะ ซาโต ลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่น ออกมาตามหาบิดาซึ่งเป็นชาวญี่ปุ่น โดยเดินถามนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยววัดท่าหลวง อ.เมืองพิจิตร จนเป็นข่าวสร้างความสะเทือนใจไปทั่ว ก่อนที่หลายฝ่ายจะช่วยประสานงานจนด.ช.เคอิโงะได้พบกับ บิดาชาวญี่ปุ่น ซึ่งเดินทางมาหาที่เมืองไทย

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์