นี่คือ 5 อันดับ ผู้จัดการทีมที่มีค่าจ้างหรือค่าตัว ต่อปี แพงที่สุด
ใน 32 ทีมที่เข้าแข่งขันในฟุตบอลโลกครับ ลองมาดูกัน
........
....
อันดับที่ 5 เบิร์ก ฟาน มาวาย ของฮอลแลนด์
ค่าจ้างของเขา อยู่ที่ 2.7 ล้านดอลลาร์ ต่อปี
หรือคิดเป็นเงินไทย ก็ไม่มากนักครับ แค่ 90 ล้านบาทต่อปีเท่านั้นเอง
.....
....
อันดับที่ 4 โจฮาคิม เลิฟ ของเยอรมันนี นั่นเองครับ
ค่าจ้างของเขา อยู่ที่ 3.3 ล้านดอลลาร์ ต่อปี
หรือคิดเป็นเงินไทย ก็ตก 110 ล้านบาทต่อปี
.....
....
อันดับที่ 3 ฮาเวียร์ อาเกเล่ ของเม็กซิโก
ตอนแรกที่ผมรู้ก็แปลกใจพอสมควร ที่ค่าจ้างของเขา แพงขนาดนี้
ค่าจ้างของเขา อยู่ที่ 4 ล้านดอลลาร์ ต่อปี
คิดเป็นเงินไทย ถึง 132 ล้านบาทต่อปีเลยทีเดียว
........
....
อันดับที่ 2 มาเซลโล ลิบปี้ ของ อิตาลี
ค่าจ้างของเขา อยู่ที่ 4.1 ล้านดอลลาร์ ต่อปี
คิดเป็นเงินไทย กว่า 135 ล้านบาทต่อปีเลยครับ
อิตาลี ตกรอบแรก เล่นแค่ 3 นัดเท่านั้นเอง คุ้มค่าไหมล่ะครับเนี่ย
หากบอกว่าไม่คุ้มแล้ว ต้องมาดูอันดับที่ 1 ก่อนครับ
น่าจะเดาได้ไม่ยากใช่ไหมครับ
เพราะเป็นผู้จัดการทีม ในชาติที่ขึ้นชื่อว่า รวยที่สุดในวงการลูกหนัง
....
อันดับที่ 1 ฟาบิโอ คาเปลโล่ ผู้จัดการทีมชาติอังกฤษ ครับ
ค่าจ้างของ คาเปลโล อยู่ที่ ถึง 9.9 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปี
แพงมากๆๆครับ ตกเป็นเงินไทย กว่า 330 ล้านบาท
แพงกว่าอันดับ 2 เกือบสามเท่าตัว
แต่พาอังกฤษมาได้แค่รอบ 16 ทีมสุดท้าย เล่นไปเพียง 4 นัด
คุ้มค่าขนาดไหน คงไม่ต้องอธิบายกันนะครับ
.........
....
มาถึง ผู้จัดการทีมคนเก่ง ที่ทำผลงานได้ดีมากในฟุตบอลโลกที่แอฟริกาใต้
เพราะพาทีมชาติที่เขาคุมอยู่ ผ่านเข้าถึงรอบ 4 ทีมสุดท้าย
แถมยังมีลุ้นอันดับสาม ในฟุตบอลโลกครั้งนี้เสียอีก
ใช่แล้วครับ ออสการ์ ทาบาเรซ กุนซืออุรุกวัย นั่นเองครับ
ทาบาเรซ มีค่าจ้างคุมอุรุกวัย มาฟุตบอลโลกที่ แอฟริกาใต้ ถูกแสนถูกที่สุด
ถูกชนิดที่ว่า ไทยมีลุ้นไปจ้างมาคุมทีมชาติไทยได้เลยนะครับ
เป็นงัยครับ ผู้จัดการทีมชาติเหล่านี้ ไทยเราสนใจจะจ้างไหมครับ
(ไทยเราจ้างไบรอัน ร็อบสัน มาเป็นโค้ช ตกปีละ 4 ล้านบาทเท่านั้นเอง)
ค่าตัวของทาบาเรซ อยู่ที่ 3 แสนเหรียญสหรัฐต่อปีเท่านั้นครับ
คิดเป็นเงินไทย ก็เพียงแค่ ปีละ 10 ล้านบาทเท่านั้น
หากเทียบกับมาเซลโล่ ลิบปี้ของอิตาลีแล้วนั้น
ค่าตัว ค่าจ้าง ต่างกันถึง สามสิบกว่าเท่ากันเลยทีเดียว ไม่น่าเชื่อเนอะครับ