เพลิงไหม้รง.รีไซเคิลพลาสติกวอดกว่า5แสน

ไฟไหม้โรงงานรีไซเคิลพลาสติก ย่านบางปู สมุทรปราการ วอดกว่า 5 แสน
       
วันนี้ (10 ธ.ค.) พ.ต.ท.คเณศร์  ริ้ววิริยะ สารวัตรเวร สภ.บางปู สมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีเหตุเพลิงไหม้ภายในบริษัท เซ็ท อินดัสตรี จำกัด ตั้งอยู่ริมถนนสุขุมวิท หลักกิโลเมตรที่ 33 เลขที่ 251 / 1 หมู่ 1 ต.บางปูใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยรถดับเพลิงเทศบาลตำบลบางปู จำนวน 4 คันเดินทางตรวจสอบที่เกิดเหตุ 
     
ในที่เกิดเหตุพบที่บริษัทดังกล่าวพบเป็นโรงงานรีไซร์เคิลพลาสติกเก่าขนาดใหญ่ชั้นเดียว ที่ตั้งอยู่บนเนื้อที่ประมาณ 7 ไร่เศษ ภายในโรงงานมีพลาสติกเก่าที่เตรียมเอามารีไซร์เคิลเป็นเม็ดพลาสติกจำนวนมากเก็บอยู่ เพลิงกำลังลุกไหม้อยู่ทางด้านหลังโรงงานซึ่งต่อเติมเป็น 2 ชั้นทำเป็นห้องพักของคนงานต่างด้าว เพลิงได้ลุกโหมอย่างรุ่นแรงจนโครงเหล็กหลังคาได้เกิดการยุบตัวถล่มลงมา เจ้าหน้าที่ได้ช่วยกันเร่งระดมฉีดน้ำอยู่นานกว่า 30 นาทีจึงสามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้  พบว่าเพลิงได้เผาผลาญอาคารโรงงานเสียหายไปประมาณครึ่งโรงงานรวมทั้งห้องพักคนงานจำนวน 9 ห้อง โชคดีในที่เกิดเหตุไม่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตส่วนค่าเสียหายเบื้องต้นคาดว่าไม่ต่ำ 5 แสนบาท 
      
จากการสอบสวน นาย คู่ อายุ 22 ปี แรงงานชาวพม่า ได้เปิดเผยว่าโรงงานดังกล่าวเป็นของรัตน์มี จริยะวงศ์ศิริ ขณะเกิดเหตุไม่ได้อยู่ที่โรงงาน มีเพียงคนงานที่เป็นแรงงานต่างด้าวประมาณ 20 คนที่พักอาศัยอยู่ที่ห้องพักภายในโรงงาน โดยก่อนเกิดเหตุในขณะที่ตนและคนงานคนอื่น ๆ กำลังนอนหลับอยู่ ได้มีกลุ่มควันจำนวนมากพวยพุ่งเข้ามาในห้องจึงรีบลุกขึ้นมาดูได้พบเพลิงกำลังลุกไหม้ห้องพักคนงานห้องที่ 8-9 ซึ่งอยู่ด้านในก่อนลุกลามมาติดห้องอื่น ๆ อย่างรวดเร็วและลุกลามไปติดตัวอาคารโรงงาน ตนและคนงานคนอื่น ๆ ต่างพากันวิ่งหนีตายกันออกมาข้างนอกโดยที่ไม่ทันได้หยิบฉวยทรัพย์สินอะไรออกมาเลยเหลือเพียงเสื้อผ้าเพียงชุดเดียว คนงานและ รปภ. ได้ช่วยกันเอาถังเคมีดับเพลิงมาช่วยกีนฉีดสกัดเพลิงแต่ไม่สามารถสกัดเพลิงได้จึงแจ้งขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่
       
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่าสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้น่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร หรืออาจเกิดจากเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในห้องพักคนงานห้องใด ห้องหนึ่งอาจเกิดการช๊อตจนทำให้เกิดเพลิงไหม้ดังกล่าว อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะได้สอบสวนหาข้อเท็จจริงเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป



เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์