วันนี้ (9 ธ.ค.2553) ตระกูล “บุลสุข” ขายหุ้นเป๊ปซี่หมดหน้าตัก จำนวน 54.82 ล้านหุ้น หรือ 20.61% โดยขายหุ้นละ 42 บาท ซึ่งในขณะนี้ ถีบราคาสูงถึงหุ้นละ 65 บาท
ตระกูล “บุลสุข” ผู้ก่อตั้งและผู้ถือหุ้นใหญ่บริษัท เสริมสุข จำกัด (มหาชน) หรือ SSC ได้ยินยอมขายหุ้นทั้งหมดที่ถืออยู่ในบริษัทเสริมสุข ออกมาให้กลุ่มผู้ทำคำเสนอซื้อ (เทนเดอร์ ออฟเฟอร์) หุ้นของบริษัท โดยนายสมชาย บุลสุข ผู้เป็นพ่อ พร้อมด้วยนายฐิติวุฒิ์ บุลสุข บุตรชาย เข้ารายงานตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า ได้ขายหุ้นที่ถืออยู่รวมกันทั้งหมดประมาณ 54.82 ล้านหุ้น หรือ 20.61% ออกมาเมื่อวันที่ 2 ธ.ค.ที่ผ่านมา ในราคาหุ้นละ 42 บาท ตามราคาที่มีผู้เสนอซื้อคิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 2,302.20 ล้านบาท ทำให้ตระกูลบุลสุขไม่เหลือหุ้นอยู่ในมือแม้แต่หุ้นเดียว
ขณะเดียวกันยังมีรายงานการขายหุ้นของผู้บริหารบริษัทเสริมสุข ออกมาด้วยคือ นายอรรถกฤช วิสุทธิพันธ์ ขายหุ้นออกมารวมทั้งสิ้น 76,363 หุ้น นายปริญญา เพิ่มพานิช รายงานการโอนหุ้นออกมา 90,080 หุ้น
นายธนบุญชัย กรรมการ บริษัทเอสเอส เนชั่นแนล โลจิสติกส์ ผู้ทำคำเสนอซื้อเปิดเผยว่า ทางกลุ่มสามารถตั้งโต๊ะรับซื้อหุ้นบริษัทเสริมสุขได้ประมาณ 85 ล้านหุ้น หรือราว 32% โดยใช้เงินประมาณ 3,570 ล้านบาท ซึ่งได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากธนาคารกรุงเทพ ทั้งนี้ หลังกลุ่มของตนเข้ามาถือหุ้นในเสริมสุขแล้ว ยังยืนยันที่จะให้กลุ่มของนายสมชาย บริหารบริษัทต่อไปเหมือนเดิม และไม่มีแผนที่จะเข้าไปเปลี่ยนแปลงอะไรภายในบริษัท
อย่างไรก็ตาม แม้กลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่คนไทยจะเปลี่ยนมือไปจากตระกูลบุลสุขแล้วก็ตาม การตั้งโต๊ะรับซื้อหุ้นครั้งนี้ได้มีการเข้ามาแย่งซื้อหุ้นดันราคาขึ้นไปสูงสุดถึง 65 บาท แม้ราคาซื้อขายในกระดานขณะนี้ก็ยังสูงกว่าที่ราคาเสนอซื้อที่ 42 บาท