สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที 1 ธ.ค.ว่า ผลการสำรวจกระทำโดยหน่วยงานด้านทนายความของสหรัฐระบุว่า เว็บไซต์เครือข่ายชุมชนออนไลน์ยอดฮิต"เฟซบุ๊ค"มีส่วนเกี่ยวข้องทำให้ชาวอเมริกัน 14 ใน 5 ต้องหย่าร้างกัน เนื่องจากคู่สามีภรรยาต่างพบข้อความจีบเกี้ยวของอีกฝ่าย นำไปสู่การใช้เป็นหลักฐานอ้างพฤติกรรมไม่ซื่อสัตย์ของอีกฝ่าย หรือทำให้เกิดความขัดแย้งที่ไม่สามารถประนีประนอมกันได้
นอกจากนี้ ในหลายกรณี ยังพบว่า เฟซบุ๊คเป็นต้นตอทำให้คู่สามีภรรยาหันไปติดต่อกับ"ถ่านไฟเก่า"ที่พวกเขาไม่ได้เจอหน้ากันเป็นเวลาหลายปีด้วย
รายงานระบุว่า ผลสำรวจพบว่า เฟซบุ๊คเป็นเครือข่ายชุมชนออนไลน์ ที่คุกคามชีวิตคู่ชาวอเมริกันมากที่สุด โดยทนายความ 66 % อ้างว่า ข้อความหรือรูปถ่ายในเฟซบุ๊คของสามีภรรยาชาวอเมริกันที่จับได้ว่าอีกฝ่ายไม่ซื่อสัตยื ถูกนำไปเป็นหลักฐานในคดีฟ้องหย่า รองลงมาคือ มายสเปซ 15 เปอร์เซนต์ ขณะที่กรณีเช่นนี้ยังเกิดขึ้นสด ๆ ร้อน กับเหตุการณ์หย่าร้างครึกโครมของดาราดัง "อีว่า ลองโกเลีย"ที่ประกาศหย่าโทนี่ ปาร์กเกอร์ สามีนักบาสเกตบอลชื่อดัง ภายหลังเธอรู้ว่าเขาได้ติดต่อกับหญิงอื่นผ่านเฟซบุ๊คด้วย
ด้านนักวิชาการชี้ว่าเขาเชื่อว่าผู้ใช้บางคนใช้เฟซบุ๊ค เพื่อสร้างโลกจินตนาการส่วนตัว และเพื่อหนีตัวเองจากภาวะไม่สมหวังในโลกปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม เขาชี้ว่า ผู้คนไม่ควรตำหนิเฟซบุ๊คว่าเป็นสาเหตุของการหย่าร้าง เพราะจริง ๆ แล้วมันเป็นเทคโนโลยีธรรมดาประเภทหนึ่ง เมื่อพิจารณาจากก่อนหน้านี้ที่โลกก็มีอีเมล์ และโทรศัพท์ ที่สามารถทำให้คนเราล่วงรู้ความสัมพันธ์นอกใจของคู่สมรสได้เช่นกัน