กระทรวงสาธารณสุขเดินหน้ารับบริจาคอวัยวะ ปีหน้าเร่งยอดบริจาคตับไต 200 ราย พร้อมเตรียมตั้งคณะทำงานสานต่อโครงการ
วันนี้ (30 พ.ย.) นายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ขณะนี้ คนไทยมีปัญหาเจ็บป่วยเป็นโรคเรื้อรังมากขึ้น โดยโรคที่พบมาก ได้แก่ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคปอดที่เกิดจากการเสื่อมของถุงลมปอด มีผู้ป่วยปีละประมาณ 1 ล้านคน โรคดังกล่าว นอกจากรักษาไม่หายขาด ยังส่งผลให้อวัยวะภายใน เช่น หัวใจ ไต ปอด ตับเสียการทำงานอย่างถาวรด้วย การรักษาจะต้องใช้การผ่าตัดเปลี่ยนอวัยวะใหม่ไปทดแทน หรือเรียกว่าการผ่าตัดปลูกถ่ายอวัยวะ ซึ่งได้ผลคุ้มค่ามาก เป็นการชุบชีวิตใหม่ให้ผู้ป่วย
นายแพทย์ไพจิตร์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้ วงการแพทย์ไทยสามารถทำได้ แต่ปัญหาใหญ่คือ ขาดแคลนอวัยวะที่จะนำมาผ่าตัดปลูกถ่าย
เนื่องจากคนไทยมักมีความเชื่อว่าการบริจาคอวัยวะจะทำให้เกิดชาติหน้ามีอวัยวะไม่ครบ 32 จึงมีผู้บริจาคน้อยมาก ทำให้การผ่าตัดปลูกถ่ายอวัยวะในไทยดำเนินการได้น้อยมาก มีไม่ถึงปีละ 200 ราย ขณะนี้ ทั่วประเทศมีผู้ป่วยเข้าคิวรอการผ่าตัดปลูกถ่ายอวัยวะ ที่ศูนย์รับบริจาคอวัยวะสภากาชาดไทย ประมาณ 2,000 กว่าราย ในขณะที่ ต่างประเทศมีการผ่าตัดเปลี่ยนอวัยวะปีละจำนวนมาก
นายแพทย์ไพจิตร์ กล่าวต่อว่า กระทรวงสาธารณสุขได้เร่งแก้ไขปัญหานี้ และจะรณรงค์ให้คนไทยบริจาคอวัยวะกันมากขึ้น จะเน้นบริจาคตับ และไตก่อน
โดยการขอบริจาคในกลุ่มผู้บาดเจ็บสาหัสจากอุบัติเหตุที่รักษาในโรงพยาบาลต่าง ๆ และอยู่ในภาวะที่สมองตายแล้ว ในปีนี้ ตั้งเป้าจะให้ได้ 200 ราย โดยจะตั้งคณะกรรมการ เพื่อดำเนินการเรื่องนี้ เฉพาะ 1 ชุด และเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาเป็นคณะกรรมการ เช่น สภากาชาดไทย มูลนิธิโรคไต คณะแพทยศาสตร์จากมหาวิทยาลัยต่าง ๆ สถาบันการแพทย์ฉุกเฉิน สมาคมปลูกถ่ายอวัยวะ เป็นต้น ได้มอบหมายให้ นายแพทย์ทนงสรรค์ สุธาธรรม รองปลัดระทรวงสาธารณสุข เป็นประธาน
ทางด้าน นายแพทย์ทนงสรรค์ สุธาธรรม รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ในการเดินหน้าโครงการดังกล่าว ในปี 2554 นี้
จะเริ่มนำร่องในโรงพยาบาลศูนย์ของกระทรวงสาธารณสุขที่อยู่ใกล้ กทม. ก่อน 3 แห่ง คือ โรงพยาบาลศูนย์ชลบุรี โรงพยาบาลสระบุรี และโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ซึ่งสามารถเดินทางไปรับอวัยวะบริจาคมาทำการผ่าตัด เปลี่ยนให้ผู้ป่วยที่เข้าคิวรอที่สภากาชาดไทยได้ภายใน 6 ชั่วโมง ในการขอบริจาคอวัยวะนั้น จะขอในกลุ่มผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุที่มีอาการวิกฤติ และอยู่ในภาวะที่สมองตาย ไม่มีโอกาสรอดชีวิตแล้ว ซึ่งเมื่อมีอวัยวะบริจาคมากขึ้น แพทย์จะสามารถให้การรักษาผ่าตัดเปลี่ยนทดแทน ช่วยผู้ป่วยที่ยังมีชีวิต และรอคอยความหวังได้มากขึ้น
“สถิติต่อปีประเทศไทยมีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ เฉลี่ยปีละประมาณ 13,000 คน เฉลี่ยชั่วโมงละ 2 คน และพบมากเป็น 2 เท่าตัว ในช่วงเทศกาลปีใหม่ เทศกาลสงกรานต์ ส่วนใหญ่อยู่ในวัยหนุ่มสาว อายุ 15-45 ปี ซึ่งมีร่างกายแข็งแรง และอวัยวะต่าง ๆ มีความสมบูรณ์ ทั้งนี้จ ะต้องพูดคุยกับญาติของผู้เสียชีวิต เพื่อทำความเข้าใจ และสมัครใจบริจาคอวัยวะ เพื่อสร้างกุศลให้ผู้เสียชีวิตเป็นครั้งสุดท้าย ซึ่งจะได้ประชุมหารือกับผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป เพื่อเชิญชวนหาผู้บริจาคอวัยวะดังกล่าว ที่ผ่านมาพบว่า ในคนไทย 1 ล้านคน จะมีผู้บริจาคอวัยวะเพียงไม่ถึง 2 คนต่อปี ในขณะที่ แถบยุโรป เช่น ประเทศสเปน มีผู้บริจาคอวัยวะปีละ 34 คน สูงกว่าไทย 17 เท่าตัว” นายแพทย์ทะนงสรรค์ กล่าว.