ศาลฎีกาพิพากษายืนจำคุกตลอดชีวิตเอเย่นต์เฮโรอีน ชาวมาเลเซีย หลังร่วมกับเพื่อนซุกผงนรกข้างประตูรถ ลอบขายต่างประเทศ
วันนี้ (26 พ.ย.) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาของศาลฎีกา ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดียาเสพติดเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายตัน เวง ก๊อก อายุ 42 ปี และ นายโมไฟซาล บินโมเทียบ อายุ 32 ปี ทั้งสองเป็นชาวมาเลเซีย ร่วมกันเป็นจำเลย ในความผิดฐานมีเฮโรอีนไว้ในครอบครอง เพื่อจำหน่าย และพยายามส่งออกนอกราชอาณาจักร ตามฟ้องโจทก์ เมื่อวันที่ 2 มี.ค.49 ระบุความผิดจำเลย สรุปว่า
เมื่อระหว่างวันที่ 8 ธ.ค.-10 ธ.ค.48 ต่อเนื่องกัน พวกจำเลยได้บังอาจร่วมกันมีเฮโรอีน จำนวน 50 แท่ง หนัก 22.5 กก. ซุกซ่อนไว้ในรถยนต์ ยี่ห้อ โพโรดัว ทะเบียนมาเลเซีย พีอีเค.7877 บริเวณข้างประตูด้านข้างซ้าย หน้า-หลัง และประตูเปิดปิดด้านหลัง โดยมีจำเลยที่ 1 เป็นผู้ขับ ส่วนจำเลยที่ 2 ขับรถยนต์ยี่ห้อ ฟอร์ด เอสเคป ทะเบียนมาเลเซีย พีจีเอส 9349 คอยคุ้มกัน เดินทางจาก อ.สะเดา จ.สงขลา เตรียมเข้าประเทศมาเลเซีย แต่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลาง และตำรวจท้องที่ ร่วมกันติดตามจับกุมตัวจำเลยทั้งสองได้ พร้อมเฮโรอีน โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง และอื่น ๆ เป็นของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส.แจ้งข้อหาดำเนินคดี ชั้นสอบสวนจำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ แต่ให้การรับสารภาพในชั้นศาล
โดยคดีนี้ ศาลอาญาพิเคราะห์แล้วเห็นว่า จำเลยทั้งสองกระทำผิดตามฟ้องจริง พิพากษาประหารชีวิต คำรับสารภาพเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาคดี ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุกจำเลยทั้งสองไว้ตลอดชีวิต ริบของกลาง จำเลยยื่นอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ 2 ยื่นฎีกาคัดค้านเพียงคนเดียวว่า ตนเป็นแค่ผู้สนับสนุน ขอให้ศาลลดโทษด้วย ศาลฎีกาตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือกันแล้วเห็นว่า พฤติการณ์ของจำเลยที่ 2 อยู่ในสถานะเป็นการตกลงร่วมมือร่วมใจในการกระทำผิดด้วยกัน โดยมีการแบ่งหน้าที่กันทำ มิใช่เป็นผู้สนับสนุนดังที่อ้าง จึงไม่มีเหตุที่จะเปลี่ยนแปลงแก้ไขคำพิพากษา ฎีกาของจำเลยที่ 2 ฟังไม่ขึ้น พิพากษายืน