เซียนฮิตเลข2002หวยผีซากทารก

นักเสี่ยงโชคแห่ซื้อเลขเด็ดโยงซากทารก 2,002 ศพ แน่นวัดไผ่เงินฯ ลอตเตอรี่เกลี้ยงแผงชั่วพริบตา

ขณะที่ชาวบ้านยังคงนำขนมนมเนยไปเซ่นดวงวิญญาณเด็ก ๆ ด้วยความสงสาร เขตบางคอแหลมทำความสะอาดใหญ่ บริเวณวัดและโกดังเก็บศพ เตรียมพื้นที่จัดงานอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลทั้งเสาร์-อาทิตย์ ขณะที่กรรมการ มส.ยันทำแท้งบาปหนัก แต่ไม่มีกำหนดในหลักพุทธศาสนาว่าต้องเผาหรือฝัง ขึ้นอยู่กับความเชื่อ ส่วนเรื่องคดี พงส.เตรียมสเกตช์ภาพคนร้ายผู้จ้างวานอีกคนเป็นชายวัย 30 ปี ด้านแฝดกุมารทอง “จิลล์-จักรพงศ์” ย้ำ เผาศพเด็กไม่ได้เด็ดขาด เพราะจะทำให้ไม่ได้ไปเกิดใหม่ แต่ถ้าฝังถูกวิธี จะได้ไปเกิดใหม่ทันที
   
จากกรณีเหตุสลดใจ พบซากทารกจากการทำแท้งรวมทั้งสิ้น 2,002 ราย ซุกซ่อนเก็บไว้ในช่องเก็บศพวัดไผ่เงินโชตนาราม ย่านบางคอแหลม

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตามจับกุมผู้ต้องหาได้ 3 คน เป็นสัปเหร่อของวัด 2 คน กับอดีตผู้ช่วยพยาบาลสาวมือทำแท้ง ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 24 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศภายในวัดไผ่เงินโชตนารามยังคงคลาคล่ำไปด้วยผู้คนที่มี  จิตศรัทธาเดินทางมาวางเครื่องเซ่นให้กับวิญญาณทารก ก่อนแวะซื้อลอตเตอรี่ที่มีแม่ค้ามาวางแผงขายจนเลขดัง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับซากทารก หมดไปอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้เซียนหวยยังพากันกล่าวขวัญและแห่ซื้อถึงประสบการณ์สยองที่เกิดขึ้นจากการที่ดวงวิญญาณทารกไปเข้าฝันให้เห็นกันเป็นจำนวนมาก ทำให้กลุ่มผู้สื่อข่าวที่มารายงานความคืบหน้าภายในวัด บันทึกภาพและเก็บรวบรวมรายละเอียดกันแทบไม่ทัน
    
ด้านนายหมอเอก พินิจพงศ์ อายุ 38 ปี เจ้าหน้าที่ดูแลวิหารหลวงสัมฤทธิ์ซึ่งคลุกคลีอยู่กับทางวัด กล่าวว่า

เมื่อคืนวันที่ 21 พ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งตรงกับงานวันลอยกระทง มีหญิงสาวหน้าตาดีอายุประมาณ 20 ปี มาขอร้องให้ตนเดินไปวางเครื่องเซ่นที่หน้าช่องเก็บศพหมายเลข 9 และ 10 เป็นเพื่อน โดยเวลานั้นไม่มีใครอยู่ด้วยเลย ขณะที่หญิงสาวคนนั้นกำลังจุดธูปไหว้ศาลตายาย ปรากฏว่ามีความรู้สึกเหมือนมีบางสิ่งวิ่งผ่านในระยะประชิดจนหญิงสาวร้องกรี๊ดขึ้นมาเสียงดังลั่นวัด ตนจึงแนะนำให้รีบ ๆ วางเครื่องเซ่น ก่อนชักชวนกันเดินออกมาจากบริเวณดังกล่าวด้วยความสยองขวัญ ต่อมาได้มีนายธนาพร ปลื้มผล อายุ 20 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 2 คณะคหกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ วิทยา เขตพระนครใต้ ได้ถือชุดเด็ก 1 ชุด กับนมสดอีก 2 กล่อง มาจุดธูปวางเป็นเครื่องเซ่นให้วิญญาณทารกภายในวัด โดยนายธนาพร กล่าวว่า เมื่อวานนี้ก็ชักชวนเพื่อนนักศึกษาชายหญิง รวม 3 คน มาวางเครื่องเซ่น รอบหนึ่ง เนื่องจากติดตามข่าวสารตามหน้าหนังสือพิมพ์แล้วรู้สึกสงสาร วันนี้จึงไปหาซื้อเสื้อผ้าเด็กผู้หญิงกับนมมาเพิ่มให้ เพราะคิดว่าหากวิญญาณเหล่านี้ยังวนเวียนอยู่จริง จะต้องรู้สึกหิวและหนาวมากอย่างแน่นอน  

จากนั้นนายบัณฑิต สิทธินามสุวรรณ ผู้อำนวยการเขตบางคอแหลม นำกำลังพนักงานฝ่ายรักษาความสะอาด 30 คน

พร้อมรถน้ำ 2 คัน และรถเก็บขยะขนาดเล็ก 1 คัน ลงพื้นที่เก็บกวาด ฉีดน้ำทำความสะอาดรอบโกดังเก็บศพ และเมรุวัดไผ่เงินโชตนาราม เพื่อเป็นการเตรียมพื้นที่ไว้ใช้ประกอบพิธีทำบุญอุทิศส่วนกุศลครั้งใหญ่ ในวันเสาร์ที่ 27 พ.ย.นี้ โดยมีกระทรวงสาธารณสุขเป็นเจ้าภาพร่วมด้วย ขณะที่พระสงฆ์ฝ่ายมหายานจากวัดธรรมปัญญาราม ต.บางม่วง อ.สามพราน จ.นครปฐม นำโดยพระอาจารย์คงศักดิ์ ขันธวิชัย นำคณะพระสงฆ์จีนมาติดป้ายประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านในละแวกวัดร่วมพิธีกรรมโปรดดวงวิญญาณทารกที่เสียชีวิตก่อนวัยอันควรตามคติของชาวจีนในวันอาทิตย์ที่ 28 พ.ย.นี้ โดยพิธีจะเริ่มขึ้นตั้งแต่เวลา 15.00 น. มีนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานฝ่ายคฤหัสถ์ และพระมหาคณานัมธรรมปัญญาธิวัตร เจ้าคณะใหญ่อนัมนิกายแห่งประเทศไทย เป็นประธานฝ่ายสงฆ์  
   
ขณะที่ พระพรหมวชิรญาณ เจ้าอาวาสวัดยานนาวา ในฐานะกรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) กล่าวถึงการดำเนินการกับซากทารกทั้ง 2,002 ราย

ในทางพระพุทธศาสนา ถือว่าการทำแท้งเป็นบาป เป็นการฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ผิดศีล 5 โดยเฉพาะการฆ่าผู้ที่เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของตนเองยิ่งบาป หนักมากขึ้นอีก จึงอยากฝากให้เด็กและเยาวชน รวมถึงพุทธศาสนิกชนยึดหลักศีล 5 ในการดำเนินชีวิต จะได้ไม่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น ส่วนจะเผาหรือฝังศพทารกนั้น ตามหลักพระพุทธศาสนาแล้วไม่มีกำหนดว่าจะให้เผาหรือฝัง ขึ้นอยู่กับความเชื่อของแต่ละบุคคล 
   
ส่วนความคืบหน้าทางคดี ที่ สน. วัดพระยาไกร พ.ต.ท.ดิลก รื่นเนตร สว.สส. สน.วัดพระยาไกร

เปิดเผยว่า จะสั่งการให้ ร.ต.อ.ขวัญชัย แป้นมณฑา รอง สว.สส.นำตัวนายสุเทพ หรือ “รอด” ชะบางบอน อายุ 46 ปี สัปเหร่อวัดไผ่เงินฯ หนึ่งใน   ผู้ต้องหาไปสเกตช์ภาพตามคำให้การในประเด็นที่ว่ายังมีชายไม่ทราบชื่อ อายุประมาณ 30 ปี สูง 170 ซม.ไว้ผมรองทรง เป็นผู้นำซากทารกมาให้ทำลายอีกคนหนึ่ง ให้ค่าจ้างครั้งละ 100-500 บาท ตามจำนวน ซากทารก ซึ่งนายสุเทพ ระบุว่าจำใบหน้าได้อย่างแม่นยำ หากสเกตช์ภาพผู้ต้องสงสัยดังกล่าวได้แล้ว จะนำไปสู่การออกหมายจับติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป
   
พ.ต.ท.ดิลก กล่าวต่อว่า ส่วนความคืบหน้าการติดตามไปสอบปากคำ น.ส.ลัญฉกร หรือ “โกะ” จันทมนัส อายุ 33 ปี

ภายในเรือนจำนั้น น.ส.ลัญฉกร ยังคงให้การปกป้องนางสมบัติ หรืออารัตน์ สิโนทก อายุ 60 ปี ผู้เป็นมารดาโดยยอมรับว่าทำเพียงคนเดียว แม่ไม่มีส่วนรู้เห็น สำหรับเด็กที่อยู่ในความอุปการะ 7 คน ยอมรับว่าเป็นเด็กที่รอดจากการทำแท้งจริง แบ่งให้แม่ดูแล 4 คน และเลี้ยงดูเอง 3 คน กรณีที่มีการจดสูติบัตรนั้น นางสมบัติ เป็นผู้ดำเนินการแต่ไม่รู้ว่าไปติดต่อทำเรื่องที่ไหน “หลังจากนี้จะได้ตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง ว่าเด็ก ๆ ทั้ง 7 คน มีการแจ้งเกิดจดสูติบัตรที่ใดบ้าง โดยขณะนี้ก็ยังไม่ได้สอบปากคำเด็ก ๆ เพราะยังไม่รู้อีโหน่อีเหน่ นอกจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.หนองแขม ยังได้ประสานมาขอตัว นายสุชาติ หรือชาติดำ ภูมี อายุ 38 ปี ผู้ต้องหาอีกคน ไปให้ปากคำเพิ่มเติมเพื่อรวบรวมหลักฐานประกอบสำนวนคดีมัดตัว น.ส.ลัญฉกร ต่อไป”
   
ต่อมาช่วงเย็น อดีตนักแสดงฝาแฝด จิลล์-จักรพงศ์ การสมพรต ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวถึงประเด็นที่ให้ข่าวว่าห้ามเผาซากทารกดังกล่าว

เมื่อวันที่ 23 พ.ย.ที่ผ่านมา ตนกับแจ๊ค-จักรพันธ์ พี่น้องฝาแฝด ไปทำบุญให้กับน้อง ๆ ที่เสียชีวิตไปแล้ว พอไปถึงที่วัดก็เจอกับสื่อมวลชน จึงบอกสื่อไปว่าจริง ๆ แล้วศพเด็กเหล่านั้นไม่ควรเผา ตามประเพณีดั้งเดิม เด็กที่ยังไม่ได้ถูกตั้งชื่อ ยังไม่มีฟันน้ำนม และยังไม่ได้รับศีล 5 ห้ามเผา เพราะเด็กเหล่านั้นเป็นเด็กบริสุทธิ์มาก ตามความเชื่อเดิม ถ้าเผาจะทำให้เด็กคนนั้นไม่ได้ไปผุดไปเกิด และจะตามแม่เขาไป แต่ถ้าทำพิธีฝังถูกต้องตามหลักศาสนา เขาจะไปเกิดใหม่ได้ทันที แต่ถ้านำไปเผา นอกจากจะไม่มีร่างอยู่แล้ว เขาจะถูกเด็กคนใหม่แซงคิวเกิดแทน เด็กเหล่านั้นก็ต้องแค้น แน่ ๆ วันที่ไปที่วัด ตนสัมผัสได้ถึงพลังงานมหาศาล.