กระ โดดฟาดใส่ทีมมาเล เซีย คู่ปรับตลอดกาล ผลไทยชนะ 2-0 ทีม
คว้าเหรียญทองมาครอง สมัยที่ 4 ติดต่อกัน ในศึกเอเชี่ยนเกมส์
ที่เมืองกวางโจว ประ เทศจีน เมื่อ 20 พ.ย.
โกยวันเดียว6ทอง-ทีมลูกหวายเจ๋ง
ไทยขยับอัน ดับแล้ว หลังโกย6 เหรียญ ทองในวันเดียวจากทีมลูกหวายชาย-หญิงไทยโกยนำ 2 เหรียญ โดยทีมชายสอนเชิงลูกเสิร์ฟหลากหลายจนเสือเหลืองจับทางไม่ถูกเอาชนะไปตามคาดหมาย ส่วน 'เจ้าแม็กซ์' นักเทควันโดดับเครื่องชนวินาทีสุดท้ายเอาชนะจอมเตะแดนโสมขาวไป 8-6 ซิวทองเพิ่ม ส่วนเรือใบ-วินด์เซิร์ฟไม่น้อยหน้าโกยเพิ่มได้อีก 3 เหรียญ หลังทำแต้มนำโด่งตั้งแต่ช่วงต้น
-แห่เชียร์ตะกร้อหญิงชิงเจ้าภาพ
เมื่อวันที่ 20 พ.ย. ผู้สื่อข่าวกีฬา'ข่าวสด' รายงานว่า สำหรับการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 16 "กวางโจวเกมส์" ที่นครกวางโจว ประเทศจีน ตั้งแต่เช้า ทัพนักกีฬา ไทย รวมทั้งผู้บริหารสมาคมกีฬา ตลอดจนคนไทยในเมืองกวางโจว ได้เดินทางมาร่วมเชียร์ทีมตะกร้อไทย ที่ไห่จู สเตเดี้ยม ซึ่งมีการชิง 2 เหรียญทอง ประเภททีมชุดชายและหญิง โดยทีมชุดหญิง สาวไทยรองแชมป์เก่า ลงแข่งขันในเวลา 08.30 น. พบกับเจ้าภาพ สาวจีน ท่ามกลางกองเชียร์ชาวไทยและจีนที่แห่เข้าชมจนแน่นสนาม
โดยในส่วนของ "คีย์แมน" ในวงการกีฬาไทยมาร่วมให้กำลังใจกันอย่างคับคั่ง อาทิ "บิ๊กอ๊อด"พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประ เทศไทย "บิ๊กจา"พล.ต.จารึก อารีราชกา รัณย์ รองประธานและเลขาธิการคณะกรรม การโอลิมปิคฯ และนายกสมาคมตะกร้อแห่งประเทศไทย "บิ๊กต้อม"ธนา ไชยประ สิทธิ์ หัวหน้าคณะนักกีฬาไทย และ "บิ๊กหนุ่ม"กนกพันธุ์ จุลเกษม ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย
สำหรับทีมเอ ไทย ส่งเด็กชุดใหม่ที่ยังไม่เคยผ่านสังเวียนเอเชี่ยนเกมส์ ได้แก่ วันวิสาข์ จันทร์แก่น (แบ๊ก) แก้วใจ พุ่มสว่างแก้ว (ซ้ายชง) และดารณี วงศ์เจริญ (ขวาทำ) ลงสนาม เซ็ตแรก วันวิสาข์ แบ๊กของไทย ฟอร์มเข้าฝักโชว์ลูกเสิร์ฟเก็บแต้มเป็นว่าเล่น ก่อนจะชนะ 21-10 จากนั้นเซ็ตที่ 2 แม้ว่าทีมสาวจีนจะฮึดสู้ตามเสียงเชียร์ แต่ไม่เป็นผล เพราะไทยยังเล่นได้เหนือกว่าและชนะไปอีก 21-16 ทำให้ทีมเอ ไทย ชนะ จีน 2-0 เซ็ต 21-10, 21-16 ขึ้นนำ 1-0 ทีม
-ต้อนขาดคว้าทองสำเร็จ
ส่วนทีมบี ไทยส่งพิกุล สีดำ (แบ๊ก) นรีรัตน์ ตาขัน (ซ้ายชง) และธิดาวรรณ ดาวสกุล (ขวาทำ) ลงสนาม เซ็ตแรก ทีมไทย ทำแต้มขึ้นนำที่ 8-3 แต่หลังจากนั้นแผ่วปลาย ถูกจีนไล่บี้ทำแต้มมาเสมอกันที่ 15-15 ก่อนที่จีนจะพลิกนำ 16-17 อย่างไรก็ตามสาวไทยสามารถเก็บ 5 แต้มรวดเอา ชนะไปอย่างสุดมัน 21-17 เซ็ตที่ 2 ช่วงแรก สาวเจ้าภาพยังเล่นได้ดีทำแต้มเบียดกับไทยอย่างสูสี แต่ทีมไทยอาศัยประสบการณ์ที่เหนือกว่า ชนะไปอีก 21-11 ทำให้ทีมบี ไทย ชนะ จีน 2-0 เซ็ต 21-17, 21-11 สรุป สาวไทย ชนะ จีน 2-0 ทีม คว้าเหรียญทองแรก ให้กับทีมตะกร้อไทยได้สำเร็จ และยังเป็นเหรียญที่ 2 ในศึก "กวางโจวเกมส์" นอกจากนี้ยังถือเป็นเหรียญทองที่ 100 ของนักกีฬาไทยในกีฬาเอเชี่ยนเกมส์อีกด้วย
หลังจบเกม "ซันชิโร่" วีรัส ณ หนอง คาย โค้ชทีมตะกร้อหญิงของไทย กล่าวว่า ภูมิใจลูกทีมทุกคนมากที่วันนี้เราเล่นกันได้ดีที่สุดเท่าที่เคยเล่นมา พวกเราเตรียมทีมกันมาอย่างเต็มที่ถึง 4 ปี เพื่อให้มีวันนี้ แต่ต้องยอมรับว่าจีนเล่นกันได้ดีมาก และสมศักดิ์ศรีการเป็นคู่ชิงชนะเลิศในปีนี้อย่างที่สุด
-'ซันชิโร่'โวทีมเดี่ยวก็แบเบอร์
"โค้ชวีรัส" กล่าวต่อว่า ส่วนประเภททีมเดี่ยวนั้น ตอนนี้วางตัวนักกีฬาทั้ง 5 คนไว้แล้ว ประกอบด้วย นรีรัตน์ ตาขัน ธิดาวรรณ ดาวสกุล ดารณี วงศ์เจริญ พิกุล สีดำ และสุนทรี รูปสูง ซึ่งตนมั่นใจว่าจะคว้าเหรียญทองมาได้อีกเหรียญแน่นอน ส่วนคู่แข่งที่น่ากลัวก็มีเวียดนาม กับจีน
ด้าน "กระถิน"นรีรัตน์ ตาขัน กัปตันทีมไทย กล่าวว่า เหรียญทองนี้ถือเป็นเหรียญที่ 4 ในการลงเล่นเอเชี่ยนเกมส์ของตนเอง วันนี้เราเล่นกันอย่างเต็มที่ เหมือนกับที่ฝึกซ้อมมาทุกอย่าง ทั้งนี้อยากขอบคุณกองเชียร์ชาวไทยทั้งในและนอกสนามทุกคนที่ส่งแรงใจมาให้จนพวกเราทำได้สำเร็จ
ขณะที่ "ตุ๊กตา"ธิดาวรรณ ดาวสกุล จอมฟาดตัวเก่งของไทย กล่าวว่า ดีใจมากที่คว้าเหรียญทองมาได้ซึ่งก็ไม่ง่ายเลยที่จะเอาชนะจีนที่พัฒนาไปมาก ขนาดทีมชุดนี้เลิกเล่นไป 2 ปี มีลูกมีครอบครัวไปแล้ว เมื่อกลับมาใหม่ยังสามารถเล่นได้ดีขนาดนี้ ดังนั้นในอนาคตเราจะประมาทจีนไม่ได้เลย
-ทีมชายดับเสือเหลืองเพิ่มทอง
จากนั้นเวลา 14.00 น. ทีมชุดชาย ทีมไทย แชมป์เก่า พบกับ "เสือเหลือง" มาเลเซีย คู่ปรับเก่าตลอดกาล โดยทีมเอ ไทยส่งเกรียงไกร แก้วเมียน (แบ๊ก) อนุวัฒน์ ชัยชนะ (ขวาทำ) และภัทรพงษ์ ยุพดี (ซ้ายชง) ลงสนาม เซ็ตแรกทั้งสองทีมผลัดกันทำแต้มสู้กันได้อย่างเร้าใจ จนมาเสมอกันที่ 14-14 จากนั้นเป็นไทยมาเก็บ 5 แต้มรวด ขึ้นนำที่ 20-15 ก่อนจะปิดเซ็ตชนะไป 21-16 เซ็ตที่ 2 จากเกมที่ทำท่าว่าจะสูสีกัน แต่เมื่อต้องเจอกับลูกเสิร์ฟที่หลากหลายของไทย ทำเอามาเลเซียถึงกับไปไม่เป็น ถูกไทยทำแต้มนำห่างขาดลอย 19-7 ก่อนจะชนะไปอย่างง่ายดาย 21-10 ทีมไทย จึงขึ้นนำ 1-0 ทีม
มาถึงทีมบี ไทยส่ง ศิริวัฒน์ สาขา (แบ๊ก) พรชัย เค้าแก้ว (ขวาทำ) และสุริยัน เป๊ะชาญ (ซ้ายชง) ลงสนาม ต้นเซ็ตแรก ทั้งสองทีมเล่นกันได้สูสี แต่หลังจากนั้น ศิริ วัฒน์โชว์ลูกเสิร์ฟที่เฉียบขาดทำแต้มทิ้งห่าง 11-7 หลังจากไทยคุมเกมได้หมด และชนะไปได้ 21-15 เซ็ตที่ 2 รูปเกมยังเป็นไปอย่างสูสีเหมือนเดิม ทีมตะกร้อไทยอาศัยลูกเสิร์ฟของศิริวัฒน์ บวกกับการบล็อกทำแต้มของพรชัย ทีมไทยจึงชนะไปอีก 21-17 สรุป ทีมไทย ชนะมาเลเซีย 2-0 ทีม คว้าเหรียญทองเหรียญที่ 2 ของทีมตะกร้อ และเป็นเหรียญทองที่ 3 ของทัพนักกีฬาไทยอีกด้วย
-แค่ 2 ทองรับอัดฉีดแล้ว 36 ล้าน
หลังจบเกม กมล ตันกิมหงษ์ โค้ชทีมตะกร้อชายของไทย กล่าวว่า ไม่ว่ามาเลเซียจะฟอร์มตกขนาดไหน แต่เมื่อเจอกับไทยจะเต็มที่มีพลังฮึดสู้กับเราได้อย่างสนุกสูสีทุกครั้ง ส่วนการที่เกมในช่วงแรกออกมาค่อนข้างสูสีนั้นเพราะเด็กเราเน้นมากเกินไป พอเน้นแล้วไม่ได้ ก็ต้องมีการปรับแผนใหม่ทั้งลูกเสิร์ฟและการโยนลูก ส่วนทีมเดี่ยว เราได้แน่นอนแล้ว 3 คน คือ เกรียงไกร แก้วเมียน (แบ๊ก) อนุวัฒน์ ชัยชนะ (ขวาทำ) และภัทรพงษ์ ยุพดี (ซ้ายชง) ซึ่งเป็นทีมชุดเอ ของวันนี้ ส่วนอีก 2 คนจะขอหารือกับทีมโค้ชอีกครั้ง
สุริยัน เป๊ะชาญ ตัวชงจอมเก๋า กล่าวว่า เป็นเหรียญทองที่ 4 ในเอเชี่ยนเกมส์ของตนเอง ดีใจและภูมิใจมากที่ทำได้ ส่วนอนาคตจะขอรับใช้ชาติจนกว่าจะเล่นไม่ไหว โดยในซีเกมส์ ครั้งที่ 26 ที่อินโดนีเซีย ก็จะยังเล่นต่อไปแน่นอน
ขณะที่ พรชัย เค้าแก้ว กล่าวว่า ดีใจมากที่ป้องกันแชมป์ได้สำเร็จ วันนี้มาเลเซียเล่นดี ทำให้เราเจอความกดดัน แต่ต้องชมศิริวัฒน์ ที่เสิร์ฟได้ดีจนทีมไทยคว้าแชมป์
ทั้งนี้ ตะกร้อทีมชุดชายและหญิงของไทย จะได้รับเงินอัดฉีดจากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ รวมทั้งสิ้น 36 ล้านบาท ประกอบด้วย ทีมชุดชาย 12 ล้านบาท ทีมชุดหญิง 12 ล้านบาท ผู้ฝึกสอนและสมาคมตะกร้อฯ 12 ล้านบาท (ผู้ฝึกสอนจะได้รับ 20 เปอร์เซ็นต์ สมาคมกีฬาได้รับ 30 เปอร์เซ็นต์ ของเงินรางวัลที่นักกีฬาได้รับ)
-บิ๊กจาขอเหมาเหมดทั้ง 4 เหรียญ
พล.ต.จารึก อารีราชการัณย์ กล่าวว่า ดีใจมากที่ตะกร้อไทยทำได้แล้ว 2 ทอง โดยกีฬาตะกร้อ เรามีลุ้น 4 ทอง จากทีมชุด 2 เหรียญและทีมเดี่ยวอีก 2 เหรียญ โดยทีมหญิงนั้นถือว่าไม่ยากนัก แต่กับทีมชาย ต้องชมว่าเล่นกันได้ดีเกินคาด ไม่คิดว่าจะชนะมาเลเซียเกมศูนย์ได้ทั้ง 2 ชุด ซึ่งจาก 2 เหรียญทองที่ทำได้ในครั้งนี้ น่าจะทำให้ขวัญและกำลังใจของนักกีฬาไทยทั้งหมดดีขึ้น ส่วนตะกร้อทีมเดี่ยวที่จะชิงกันอีก 2 ทองนั้น เรายังไม่รู้ว่าจะเจอใครบ้างเพราะแข่งแบบพบกันหมด แต่ก็ไม่ห่วงเพราะว่าทางทีมโค้ชน่าจะวางแผนและวางแท็กติกรับมือไว้แล้ว
ธวัช กุมุทพงษ์พานิช ผู้จัดการทีมตะกร้อไทย กล่าวว่า ดีใจมากที่คว้ามาได้ทั้ง 2 ทอง ส่วนตัวภูมิใจมากที่ได้เป็นผู้จัดการทีมตะกร้อไทยมาแล้ว 12 ปี ก่อนมาแข่งตั้งเป้าไว้ที่ 3 ทอง แต่ใจจริงอยากได้ทั้ง 4 เหรียญ สำหรับการแข่งขันที่ยังเหลืออีก 2 รายการ ในประเภททีมเดี่ยวชายและหญิงนั้น ทีมชายมั่นใจว่าจะคว้าเหรียญทองได้แน่ แต่ทีมหญิงยังไม่ชัวร์เพราะว่ามีโอกาสแพ้ชนะกันได้ทุกทีม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการแข่งขันตะกร้อทีมชุดชายและหญิง รอบชิงชนะเลิศนั้น ปรากฏว่ากองเชียร์ชาวไทยที่อยู่ในนครกวางโจวและเมืองใกล้เคียงร่วม 100 คน ไม่สามารถหาบัตรเข้าชมเกมในสนามได้ โดยกองเชียร์ทั้งหมดเดินทางมาถึงสนามตั้งแต่เช้าเพื่อหาซื้อบัตรแต่ไม่มี และทั้งหมดพยา ยามขอร้องเจ้าหน้าที่จีนเพื่อขอเข้าไปชมเกม แต่ไม่เป็นผล ทำให้ทั้งหมดต้องผิดหวังอย่างมาก จนบางส่วนต้องเดินทางกลับ แต่บางส่วนยังพร้อมใจกันยืนตะโกนเชียร์ทีมตะ กร้อไทยอยู่ที่ด้านนอกสนามจนเสียงดังลั่น
โภคิน กิตติโรจนา นักศึกษาหนุ่มแห่งมหาวิทยาลัยฉางซา กล่าวว่า พวกเราทั้ง 6 คนเดินทางมาจากเมืองฉางซา ด้วยรถไฟใช้เวลากว่า 8 ชั่วโมง เพื่อมาเชียร์ทีมตะกร้อไทย แต่เมื่อมาถึงต้องผิดหวังเพราะว่าบัตรเข้าชมหน้าสนามได้ขายหมดแล้วทั้งรอบเช้า (ทีมหญิง) และรอบบ่าย (ทีมชาย) อย่างไรก็ตาม พวกเราจะขอติดตามเชียร์นักกีฬาไทยชนิดอื่นๆ ต่อไป
-เทควันโดเจ๊งโค่นต้นตำรับ
เทควันโด รุ่น 54 ก.ก. ชาย "เจ้าแม็กซ์" ชัชวาล ขาวละออ ชนะ ทากายะ นาคางาวะ จากญี่ปุ่น 5-3 ในรอบ 32 คน จากนั้นเอาชนะ โซเบียร์ นาซาราลิเยฟ จากอุซเบกิสถาน 4-0 ในรอบ 16 คน จากนั้นรอบ 8 คนสุดท้าย ชนะ เหงียน ฮู หนาน จากเวียด นาม 9-1 รอบรอง เอาชนะ ซู เชียะ หลิน จากไต้หวัน 7-4 รอบชิง พบคิม ซุง โฮ จากเกาหลีใต้ เกมเป็นไปอย่างเร้าใจ ช่วงท้ายยก 3 ขณะที่ "เจ้าแม็กซ์" นำอยู่ 4-2 โดนจอมเตะเกาหลีใต้เตะเข้าหน้าขึ้นนำ 5-4 ในช่วง 22 วินาทีสุดท้าย แต่ชัชวาลไม่ท้อเดินหน้าบุก ใส่เตะหน้าคืนแซงนำอีกครั้ง 7-5 ก่อนที่ทั้งสองฝ่ายจะดับเครื่องแลกกันเป็นชุดสุดท้ายจบเกม "เจ้าแม็กซ์" ชนะไป 8-6 คว้าเหรียญทองที่สองให้ทีมเทควันโดไทยในศึกเอชี่ยนเกมส์ครั้งนี้ต่อจาก รุ่น 53 ก.ก.หญิง ของ "น้องหยิน"สริตา ผ่องศรี
"เจ้าแม็กซ์" กล่าวว่า เกมในช่วงท้ายยังมั่นใจว่าชนะ โดนปรับเกมเป็นตั้งรับเพื่อรับมือเกาหลีใต้ที่จะวิ่งเข้าใส่ ก่อนจะเตะคืนในจังหวะชี้เป็นชี้ตายก่อนเอาชนะมาได้ ส่วนเรื่องบนบานศาลกล่าวนั้น "เจ้าแม็กซ์" ซึ่งได้รับฉายาว่าเป็นจอมเตะขมังเวทอยู่แล้ว เผยว่า ตนเป็นคนที่นับถือเรื่องพวกนี้พอสมควร เวลาไปแข่งขันต่างประเทศจะต้องไปกราบไหว้ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ครั้งนี้บนเอาไว้ 9 วัด ประกอบด้วย วัดพุทไธศวรรย์ วัดบางกุฎีทอง วัดท่าการ้อง วัดสายไหม อ.อ๊อด วัดหลวงพ่อฤๅษีลิงดำ ศาลพระพิฆเนศ ลานพระบรมรูปทรงม้า รัชกาลที่ 5 ลานพระบรมรูปรัชกาลที่ 6 สวนลุมพินี อีกที่ขอเก็บไว้เป็นเคล็ดส่วนตัว โดยแต่ละที่จะบนไม่เหมือนกัน ส่วนใหญ่บนประทัดแสนนัด บางแห่งถวายเงินร่วมสร้างอุโบสถ 10,000 บาท ส่วนศาลพระพิฆเนศ ถวายไข่เค็ม 99 ลูก
-จอมเตะเก็บแล้ว 2 ทอง 2 เงิน
ส่วน "เจ้าไอ"เป็นเอก การะเกตุ ในรุ่น 58 ก.ก. ชนะ อึง ไหว จากมาเก๊า 13-0 รอบ 32 คน, รอบ 16 คน เอาชนะ ซัลก้า เบกกาสซี่มอฟ จากคาซัคสถาน 4-3 รอบ 8 คน ชนะ โมฮัมหมัด ไฟแอซ จากอัฟกา นิสถาน 13-2 รอบรอง เอาชนะ ซู ยอง เจิ้ง จากจีน 6-2 รอบชิง เสมอ เหว่ย เชน หยาง จากไต้หวัน หลังผ่านช่วงซัดเดนเดธ แต่พ่ายคะแนนไปอย่างน่ากังขา เนื่องจากการสับสนเรื่องการตัดแต้มของผู้ตัดสินกลางในช่วงท้ายยกที่ 3
"เจ้าไอ" กล่าวว่า ก่อนแข่งเจอกับไต้ หวัน ทำใจเรื่องการตัดสินไว้แล้ว ตลอดการแข่งขันตนทำมากกว่า อยู่กลางสนามมากกว่า แต่ยอมรับการตัดสิน เพราะตนไม่สามารถเตะให้ชนะได้อย่างเด็ดขาดเพียงพอ
ขณะที่เหรียญทองแดงจากรุ่น 73 ก.ก. รภัทรกร ประสพสุข แพ้ หลัว เหว่ย จากจีนในรอบรอง
ส่งผลให้เทควันโดไทยจบผลงานในศึก เอเชี่ยนเกมส์ ครั้งนี้ด้วย 2 เหรียญทอง 2 เหรียญเงิน และ 4 เหรียญทองแดงเป็นอัน ดับ 4 โดยอันดับ 1 เป็นเกาหลีใต้, อันดับ 2 จีน, อันดับ 3 อิหร่าน
-แล่นใบสุดยอดวันเดียว 3 ทอง
ส่วนเรือใบ-วินด์เซิร์ฟ ที่เมืองชานเหว่ย ทีมแล่นใบไทยลงแข่งวันสุดท้าย คือ เที่ยวที่ 10 เที่ยวที่ 11 และเที่ยวที่ 12 ผลปรากฏว่า เรือใบ กวาดมาได้ถึง 3 เหรียญทอง จากประเภทโฮบี้ 16 ดำรงศักดิ์ วงศ์ทิม กับ กฤษดา วงศ์ทิม ที่แข่งขันใน 3 เที่ยวสุดท้าย ได้อันดับ 1 และอันดับ 4 ตามลำดับ โดยมีคะแนนเป็นอันดับ 1 คว้าเหรียญทองแบบแบเบอร์ เนื่องจากทำแต้มนำมาตั้งแต่ช่วงต้น
ถัดมาประเภทออพติมิสหญิง นพเก้า พูนพัฒน์ แข่งขันในอีก 2 เที่ยวที่เหลือ คือ เที่ยวที่ 11 และเที่ยวที่ 12 ได้อันดับ 3 และอันดับ 1 ตามลำดับ เข้าป้ายมาเป็นอันดับ 1 คว้าเหรียญทองที่ 2 และอีกเหรียญทอง ได้จากประเภทเลเซอร์เรเดียล กีระติ บัวลง เที่ยวที่ 11 เข้ามาเป็นอันดับ 2 และเที่ยวที่ 12 เข้ามาเป็นอันดับ 4 แต่ยังมีคะแนนนำ คว้าเหรียญทองไปครองสมใจ และทำให้ทีมไทยเป็นเจ้าเหรียญทองเรือใบอีกด้วย
ขณะที่ประเภทอื่นๆ ออพติมิสชาย ทศพล มหาวิเชียร เที่ยวที่ 11 ได้อันดับ 5 และเที่ยวที่ 12 ได้อันดับ 1 จบที่อันดับ 4 ขณะที่ประเภท 402 หญิง พัทธ์ธีรา มีอยู่สามเสน กับ นริศรา อยู่สวัสดิ์ เที่ยวที่ 10 เที่ยวที่ 11 และเที่ยวที่ 12 ได้อันดับ 4 อันดับ 3 และอันดับ 2 ตามลำดับ ได้อันดับ 4 มาครอง และประเภท 420 ชาย นาวี ธรรมสุนทร กับอธิวัฒน์ โฉมทองดี เที่ยวที่ 10 เที่ยวที่ 11 และเที่ยวที่ 12 ได้อันดับ 5 อันดับ 3 อันดับ 2 ตามลำดับ ได้อันดับ 4 เช่นเดียวกัน
พล.ร.ต.ธานี ผุดผาด ผู้จัดการทีม กล่าวหลังพาทีมประสบความสำเร็จสูงสุดว่า 3 เหรียญทองที่ทำได้ต้องถือว่าทะลุเป้าหมายที่เราวางไว้ ซึ่งในตอนแรกไม่คิดว่าจะได้มากขนาดนี้ ทั้งนี้ต้องชื่นชมความสามารถของนักกีฬาทุกคน ซึ่งในเบื้องต้นก็จะพานักกีฬาทั้งหมดไปรับประทานอาหารมื้อใหญ่ ซึ่งนอกจากเป็นการฉลองชัยชนะ ในวันที่ 20 พ.ย. ยังเป็นวันเกิดของกฤษดา วงศ์ทิม กับ ทศพล มหาวิเชียร อีกด้วย ส่วนการรับเหรียญรางวัลอย่างเป็นทางการจะมีขึ้นในเย็นวันที่ 21 พ.ย.นี้
-ไทยขยับอันดับพรวดขึ้นที่ 6
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับผลสรุปวันนี้ไทยกวาดมาได้แล้ว 7 เหรียญทอง 7 เหรียญเงิน และ 19 เหรียญทองแดง รวม 33 เหรียญ อยู่อันดับ 6 โดยมีเจ้าภาพ จีน กวาดไปแล้ว 138 เหรียญทอง 65 เหรียญเงิน และ 66 เหรียญทองแดง รวม 269 ตามด้วย เกาหลีใต้ 52 เหรียญทอง 43 เหรียญเงิน 56 เหรียญทองแดง รวม 151 เหรียญ อันดับ 3 ญี่ปุ่น 29 ทอง 52 เหรียญเงิน 55 เหรียญทองแดง รวม 136 เหรียญ อันดับ 4 อิหร่าน 8 เหรียญทอง 7 เหรียญเงิน 14 เหรียญทองแดง รวม 29 เหรียญ อันดับ 5 ฮ่องกง 7 เหรียญทอง 12 เหรียญเงิน 8 เหรียญทองแดง รวม 27 เหรียญ