เมื่อ 18 พ.ย. ไชน่าเดลี่รายงานเรื่องราวของเด็กหญิงวัย 4 ขวบ ในชนบทจีน ป่วยเป็นโรคประหลาด ท้องโตผิดปกติเหมือนใกล้จะแตก
โชคดีที่มีองค์กรเอกชนไปพบ จึงช่วยพาเด็กหญิงเข้ากรุงปักกิ่งไปรักษาตัว พ่อแม่ต่างภาวนาให้หมอรักษาลูกให้หายจากภาวะท้องมานโดยเร็ว เด็กหญิงรายดังกล่าวมีชื่อว่า หู หยุนซิง มาจากมณฑลส่านซี พ่อเป็นชาวนา มีรายได้เดือนละไม่ถึง 5,000 บาท ที่ผ่านมาพาลูกไปหาหมอมาแล้วหลายคน แต่ยังไม่รู้สาเหตุว่า ทำไมเด็กถึงท้องโตขึ้นเรื่อย โดยท้องเริ่มโตในช่วง 8 เดือนหลังเกิดในเดือนก.พ.2549 เด็กวัยเดียวกันมีรอบเอว 20-30 เซนติเมตร แต่เด็กหญิงหยุนซิง มีรอบเอวถึง 106 เซนติเมตร มีน้ำหนัก 25 กิโลกรัม ช่วงที่เด็กหญิงเดินทางจากบ้านนอกเข้ากรุง เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลเปิดเผยว่า เด็กซึมไปเหมือนกัน เพราะต้องนั่งในรถไฟที่แคบๆ กว่าจะมาถึงก็ใช้เวลานาน แต่ตอนนี้เริ่มปรับตัวได้แล้ว และมีแม่ดูแลเฝ้าไข้
พ่อเด็กให้สัมภาษณ์ว่า ตอนที่ท้องของลูกยังไม่โตมาก ลูกชอบเต้นรำ แต่ต่อมาก็เต้นไม่ได้ และยังไม่ได้ออกไปเล่นหรือพบหน้าใคร เนื่องจากรูปร่างที่ผิดปกติ
จากการวินิจฉัยเบื้องต้น น.พ.เปียน เกอ แพทย์ประจำโรงพยาบาลทหารปืนใหญ่ที่ 2 ของกองทัพประชาชนจีน ในกรุงปักกิ่ง กล่าวว่า เด็กหญิงเป็นโรคบัดด์-ไคอารี ซินโดรม มีสาเหตุมาจากการอุดตันของเส้นเลือดดำภายในตับ ทำให้เกิดของเหลวอัดแน่นในท้อง ส่วนวิธีการรักษาต้องรอการตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติม คาดว่าต้องใช้ค่ารักษาประมาณ 4 แสนบาท
นายเสิ่น ลี่ ผู้อำนวยการกลุ่มแองเจิล มัม องค์กรเอกชนที่ทำงานช่วยเหลือครอบครัวคนยากจน กล่าวว่า
เคยช่วยเหลือเด็กรายอื่นๆ ที่มีอาการคล้ายกันนี้มาแล้ว 4 คน เชื่อว่า เด็กหญิงหยุนซิงจะดีขึ้นในเร็ววัน ทางกลุ่มจะออกค่ารักษาให้ทั้งหมด รวมทั้งเปิดบัญชีธนาคารให้ผู้ใจบุญร่วมบริจาคมาตั้งแต่วันจันทร์ที่ผ่านมา หากเงินรักษายังเหลืออยู่ทางกลุ่มจะใช้รักษาเด็กคนอื่นๆ ที่ป่วยเป็นโรคนี้