ศชอ.เฝ้าติดตาม ดินถล่ม-น้ำป่า หลายพื้นที่ภาคใต้

นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ประสานการช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบอุทกภัย (ศชอ.) แถลงว่า

ทาง ศชอ. ได้เฝ้าระวังพื้นที่ต่างๆ คือ ในพื้นที่จ.ชุมพร ซึ่งมีปริมาณฝนตกหนักคืนที่ผ่าน ส่วนพื้นที่เฝ้าระวังน้ำป่าไหลหลาก/ดินโคลนถล่มใน จ.นครศรีธรรมราช (อ.ลานสะกา อ.ร่อนพิบูลย์ อ.พิปูน อ.จุฬาภรณ์ อ.พรหมคีรี อ.ท่าศาลา อ.สิชล อ.นบพิตำ จ.สุราษฏร์ธานี มี อ.ไชยา อ.ท่าชนะ อ.วิภาวดี อ.ท่าฉาง อ.กาญจนดิษฐ์ อ.บ้านนาสาร จ.ชุมพร ที่ อ.สวี อ.ปะทิว อ.หลังสวน อ.ละแม อ.เมือง จ.พังงา อ.กะปง อ.ตะกั่วทุ่ง อ.ตะกั่วป่า จ.พัทลุง ที่ อ.กงหรา พื้นที่ที่ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัย รวม16 จังหวัด 104 อำเภอ 714 ตำบล 5,345 หมู่บ้าน และประชาชนได้รับผลกระทบ 416,611 ครัวเรือน 928,237 คน พื้นที่ภาคใต้ที่ยังมีสถานการณ์อุทกภัย คือ สงขลา สุราษฏร์ธานี นครศรีธรรมราช และพัทลุง จำนวนผู้เสียชีวิต 227 ราย (ภาคใต้ 72 ราย) พื้นที่คลี่คลาย 35 จังหวัด

ผอ.ศชอ. กล่าวว่า สำหรับในพื้นที่ภาคใต้ ยังมีอุทกภัยใน 4 จังหวัด

โดยปริมาณฝนสูงสุดอยู่ที่ จ.ชุมพร 58.6 มม. มีกลุ่มฝนในบริเวณกว้าง และอากาศแปรปรวน ฝนฟ้าคะนองกระจายร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และฝนหนักในบางแห่ง ได้แก่ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง ระนอง พังงา และตรัง นอกจากนี้ยังพบแผ่นดินแยกที่ต.ละอาย อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช และดินสไลด์ รวมถึงมีสถานการณ์ดินไหล (กรวดและทราย) บริเวณเนินเขา ทับเส้นทางใน ม.13 อ.วิภาวดี จ.สุราษฏร์ธานี ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานงานนำรถเข้าเปิดเส้นทางกับกรมป่าไม้ ทั้งนี้มีการเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดและเตรียมความพร้อมอพยพฉุกเฉินตลอดเวลา