หมอยันย้าย รพ.ทำให้“หลวงพ่อคูณ”แย่

“พ่อคูณ” ฉันไม่ได้-ไข้ลด-เพลียมึนยา-นอนหลับทั้งวัน หมอยันการย้าย รพ.ทำให้หลวงพ่อแย่ลง

วันนี้ 13 พ.ย. นายสมบูรณ์ โสตถิอนันต์ เลขานุการคณะกรรมการวัดบ้านไร่ ลูกศิษย์ผู้ใกล้ชิดหลวงพ่อคูณ กล่าวถึง ความคืบหน้าอาการอาพาธของหลวงพ่อคูณ ว่า เมื่อช่วงเช้าหลวงพ่อมีไข้ขึ้นสูง วัดได้ 39.5 องศา คณะแพทย์จึงให้ยาลดไข้ พร้อมกับให้ยาปฏิชีวนะทางสายน้ำเกลือ เนื่องจากพบว่ามีอาการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ ทำให้หลวงพ่อมีอาการอ่อนเพลีย นอนซมอยู่ตลอดเวลา จนกระทั่งเวลาประมาณ 13.00 น. หลวงพ่อตื่น ลูกศิษย์จึงจัดสำรับอาหารถวาย แต่หลวงพ่อไม่ยอมฉัน บอกเพียงว่า “กูไม่หิว” แพทย์จึงให้ฉันอาหารเสริม 1 แก้ว เท่านั้น เพื่อให้ร่างกายมีพละกำลัง ขณะเดียวกัน แพทย์ได้วัดไข้อีกครั้งพบว่า หลวงพ่อคูณ ไข้ลดลงเล็กน้อยเหลืออยู่ที่ 38.8 องศา แต่อาการโดยรวมหลวงพ่อคูณ ยังมึนกับฤทธิ์ยา อ่อนเพลีย และง่วงซึม จึงใช้เวลาส่วนใหญ่นอนหลับพักผ่อน
   
เลขานุการหลวงพ่อคูณ กล่าวอีกว่า ส่วนที่มีกระแสข่าวอาการอาพาธของหลวงพ่อคูณ ครั้งนี้ ดูเหมือนหนักกว่าทุกครั้ง


จนต้องย้ายไปรักษาที่ รพ.ศิริราช หรือไม่นั้น ยังไม่เห็นว่าคณะแพทย์ รพ.มหาราช นครราชสีมา ที่ให้การรักษา ว่าอย่างไร ก็แล้วแต่ทางแพทย์ แต่เท่าที่ดูตอนนี้ หลวงพ่อก็ไข้ลดลงแล้ว เพียงแต่ยังอ่อนเพลียเท่านั้น

นพ.พินิศจัย นาคพันธุ์ แพทย์ประจำตัวหลวงพ่อคูณ กล่าวอีกครั้งว่า อาการหลวงพ่อคูณยังทรง ๆ ไข้ยังสูงอยู่เหมือนเดิม

วัดครั้งล่าสุด เมื่อเวลา 14.00 น. ได้ 38.8 องศา โดยอาการไข้สูงเริ่มตั้งแต่เมื่อช่วงกลางดึก เมื่อวานตอนค่ำหลวงพ่อยังฉันอาหารได้มาก แต่วันนี้ ฉันไม่ได้เลย ส่วนใหญ่นอนซมอยู่ตลอดเวลา เนื่องจากร่างกายอ่อนเพลีย อาการโดยรวมแล้วยังน่าเป็นห่วง
   
“ครั้งสุดท้ายที่หลวงพ่อนอน รพ.ก็ย้อนไปนานกว่า 1 ปี 3 เดือน ซึ่งถือว่านานมาก จนกระทั่ง เมื่อช่วงงานฉลองวันเกิด 87 ปี เดือนตุลาคมที่ผ่านมา หลวงพ่อไม่ได้พักผ่อน ต้องรับกิจนิมนต์มากมาย ทำให้ท่านเริ่มมีอาการอาพาธอีก ก่อนหน้านั้น แพทย์ก็ให้ยาฆ่าเชื้อมาโดยตลอด จนถึงวันนี้ อาการท่านแย่ลงมาก ส่วนเรื่องการย้าย รพ.ไปรักษาที่ รพ.ศิริราช นั้น ถ้าหากจำเป็นต้องย้าย ก็ต้องย้าย แต่ตอนนี้ ยังไม่ถึงขั้นนั้น การย้าย รพ.ไม่ใช่เรื่องเล็ก กลัวจะเป็นปัญหากับท่าน การเคลื่อนย้ายจะทำให้ท่านอาการแย่ลงอีก คงต้องให้อยู่ที่นี่ต่อไป ซึ่งการรักษาทางการแพทย์ในปัจจุบัน สามารถติดต่อเชื่อมโยงกันได้ด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ แต่คณะแพทย์ยืนยัน อะไรที่ดีที่สุดก็ต้องทำให้หลวงพ่อ” นพ.พนิศจัย กล่าว.


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์