นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการภาพยนตร์และวีดีทัศน์แห่งชาติ 9/2553 โดยมีนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) นายสมชาย เสียงหลาย ปลัดวธ. ผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมการประชุม
นายไตรรงค์ กล่าวต่อไปว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ครั้งที่ผ่านมาได้มีการตั้งข้อสังเกตว่ารัฐบาลจีนมีข้อระมัดระวังเกี่ยวกับการเผยแพร่ภาพยนตร์ ละคร ใน 2 ประเด็นคือ ไม่ให้มีการเผยแพร่ภาพเด็กนักเรียนทำผิดกฎหมาย หรือผิดวัฒนธรรม เช่น กอดจูบ ยืนสูบบุรี่ และไม่ให้มีการเผยแพร่ภาพเพศที่สาม ตุ๊ด กระเทย เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างแก่ประชาชนชาวจีน จึงขอให้ที่ประชุมบอร์ดภาพยนตร์แห่งชาติมีการพิจารณาถึงความเหมาะสมและข้อระมัดระวังดังกล่าวสำหรับการเผยแพร่ภาพยนตร์ ละครทั้งในไทยและการนำไปฉายต่างประเทศด้วย นอกจากนี้โดยส่วนตัวมีความเป็นห่วงวัฒนธรรมขณะนี้มีความเสื่อมถอยมากขึ้น เห็นได้จากการใช้ภาษาผ่านเพลง ละคร ภาพยนตร์ มารยาทของวัยรุ่น โดยใช้คำที่ดูไม่เหมาะสม บางคำไม่ทราบว่าเป็นภาษาไทย หรือภาษาต่างประเทศ เช่นคำว่า “ชิมิ”
“ผมได้สอบถาม ศ.ดร.ชัยอนันต์ สมุทวนิช ราชบัณฑิต ว่า รู้จักคำว่า ชิมิ หรือไม่ ท่านตอบว่า ไม่รู้จัก ผมเลยบอกไปว่าคำนี้เป็นคำที่ทันสมัยที่วัยรุ่นใช้กัน แปลว่า ไช่ไหม เกรงว่าต่อไปภาษาไทยจะเสื่อมและวิบัติ หากไม่มีการช่วยกันรักษา ดังนั้น อยากให้บร์อดภาพยนตร์แห่งชาติ ช่วยกันดูแลภาษาในละคร ภาพยนตร์ที่ปรากฎต่อสายตาประชาชน ไม่ให้ภาษาเสื่อมและต้องรู้ว่าอะไรควรใช้หรือไม่ควรใช้” รองนายกรัฐมนตรี กล่าว
ที่ประชุมได้มีการยกประเด็นการใช้ภาษาที่ไม่เหมาะสมผ่านภาพยนตร์มาหารือกันอย่างกว้างขวาง โดยมีการยกตัวอย่างภาพยนตร์เรื่อง หอแต๋วแตก แหกชิมิ ได้มาของตรวจพิจารณาจากบร์อดภาพยนตร์แห่งชาติ แต่ไม่ผ่านการพิจารณา และให้ทางผู้สร้างกลับไปพิจารณาแก้ไขชื่อภาพยนตร์ดังกล่าว เพราะเห็นว่าใช้คำไม่เหมาะสม ซึ่งผู้สร้างได้แก้ไขมาเป็น หอแต๋วแตก แหวกชิมิ แต่ทางบร์อดภาพยนตร์แห่งชาติก็ยังเห็นว่าไม่เหมาะสมอยู่ดี ซึ่งทางนายไตรรงค์ จึงของให้ที่ประชุมมีการตรวจสอบชื่อภาพยนตร์เรื่องดังกล่าว และยืนยันว่าไม่ควรใช้คำว่าชิมิในภาพยนตร์ ละครไทยเลย เพราะอาจจะทำให้ภาษาไทยวิบัติ