ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) และคณะ ลงพื้นที่ตรวจสถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณท่าเรือสะพานพุทธ
ท่าเรือท่าช้าง ประตูระบายน้ำเทเวศร์ ท่าน้ำเกียกกาย และสถานีสูบน้ำบางเขนใหม่ โดยวันนี้มีการคาดการณ์ว่าจะเป็นวันที่น้ำทะเลหนุนสูงสุดในรอบปี แต่ปรากฏว่าระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาสูงสุดเมื่อเวลา 08.30 น. ที่จุดวัดน้ำปากคลองตลาดอยู่ที่ระดับ 1.98 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง (รทก.) ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 2.08 เมตร และต่ำกว่าระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเมื่อวันที่ 7 พ.ย. ที่สูงในระดับ 2.03 ม. รทก. อย่างไรก็ตาม แม้ระดับน้ำจะต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้แต่พบว่ามีบ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบมีน้ำเอ่อล้นเล็กน้อย โดยเฉพาะชุมชนที่ตั้งอยู่นอกแนวคันกั้นน้ำริมเจ้าพระยา
สถานการณ์น้ำในภาพรวมวันนี้ไม่น่าเป็นห่วง กทม.ยังสามารถรับมือได้ เนื่องจากมีการปล่อยปริมาณน้ำเหนือลดลง และไม่มีฝนตกลงมาแล้ว แต่จุดที่ตนเป็นห่วงคือประชาชนที่อยู่นอกแนวคันกั้นน้ำ ซึ่งจากการสำรวจพื้นที่เหนือน้ำบริเวณจังหวัดปริมณฑลพบว่าขณะนี้ยังไม่สามารถระบายน้ำลงมาได้หมด ดังนั้น กทม.ยังจะต้องเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำต่อไปจนถึงสิ้นเดือน พ.ย.นี้ ทั้งนี้หลังจากสถานการณ์คลี่คลายแล้ว กทม.มีแผนจะเข้าไปเยียวยาทั้งด้านจิตใจและกายภาพ โดยประสานกับนักศึกษาอาชีวะให้เข้าไปซ่อมแซมเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ด้วย ส่วนการแก้ไขปัญหาในระยะยาวบริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา โดยเฉพาะชุมชนนอกแนวคันกั้นน้ำ ตนยอมรับว่ารู้สึกหนักใจ เพราะยังมีประชาชนที่ไม่ยินยอมย้ายออกจากพื้นที่ ทำให้ กทม.ไม่สามารถก่อสร้างแนวคันกั้นน้ำได้เสร็จสมบูรณ์ ซึ่งขณะนี้ยังเหลือระยะทางรวมกัน 1.25 กิโลเมตรเท่านั้น แม้ กทม.จะเข้าไปเจรจาหลายครั้งก็ตาม