สดุดีปลัดใจเพชร “วัชรัตน์ บุญฤทธิ์” ช่วยผู้ประสบภัยจนตัวตาย ด้าน “ศชอ.” เฝ้าระวัง 3 จังหวัด ชุมพร-นครศรีฯ-สุราษฎร์ น้ำป่าถล่ม
สถานการณ์อุทกภัยครั้งใหญ่ในประเทศไทยยังน่าเป็นห่วงในหลายพื้นที่ ทั้งภาคกลาง ตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้
โดยเฉพาะที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งขณะนี้ ระดับน้ำในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่เริ่มลดลง แต่ผู้ประสบภัยต้องทุกข์ระทมกับความเสียหายที่ภัยพิบัติครั้งนี้ได้ทิ้งร่องรอยเอาไว้ หลายคนต้องสิ้นเนื้อประดาตัว ฝากความหวังไว้กับความช่วยเหลือจากภาครัฐ ที่ดูแล้วยังล่าช้าและไม่ทั่วถึง
วันนี้( 5 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวจังหวัดสงขลา รายงานความคืบหน้าสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ตัวเมืองหาดใหญ่เมื่อวันที่ 4 พ.ย.ที่ผ่านมา
ว่าระดับน้ำในเขตตัวเมืองหาดใหญ่ทั้งชั้นนอกและชั้นในแห้งสนิทจนกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้วโดยเฉพาะจุดที่วิกฤติหนักในย่านเขต 8 ถนนราษฎร์อุทิศ ผู้ประสบภัยส่วนใหญ่ยังขาดอาหารและเครื่องดื่มรวมทั้งยารักษาโรค แต่ปัญหาใหญ่ที่สุดขณะนี้คือขยะจำนวนมหาศาลที่ไหลมากับน้ำ โดยทางเทศบาลนครหาดใหญ่และทหารรวมทั้งกลุ่มอาสมัครได้เร่งเก็บกวาดขยะออกจากพื้นที่ โดยเฉพาะในย่านเศรษฐกิจการค้าการท่องเที่ยวใจกลางเมืองหาดใหญ่ เพื่อให้สถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติ
นายไพร พัฒโน นายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ เปิดเผยว่า ภาพรวมของเมืองหาดใหญ่ขณะนี้กลับเข้าสู่ภาวะปกติมีเพียงน้ำท่วมขังในบางจุดของฝั่งทิศตะวันตก
หลังจากนี้จะประสานกับทุกหน่วยงานเพื่อกู้เมืองหาดใหญ่ให้คืนสู่สภาพปกติโดยเร็วที่สุด โดยมาตรการเร่งด่วนคือเอาน้ำออกให้หมดจากเมือง ช่วยเหลือผู้ประสบภัย การฟื้นฟูเมือง การทำความสะอาด และป้องกันน้ำท่วมระลอกใหม่ อย่างไรก็ตาม ผลพวงจากน้ำท่วมในครั้งนี้ได้ส่งผลให้ธุรกิจการค้าเสียหายอย่างหนัก เช่นที่ตลาดกิมหยง ตลาดพลาซ่า และร้านค้าที่อยู่ภายในชั้นใต้ดินของห้างสรรพสินค้าต่างๆ ถูกน้ำท่วมสินค้าเสียหายยับเยิน รวมทั้งรถยนต์อีกจำนวนมากทั้งที่จอดอยู่ตามถนนและชั้นใต้ดินซึ่งยังไม่สามารถนำขึ้นมาได้ ประเมินความเสียหายทางเศรษฐกิจจากน้ำท่วมครั้งนี้ไม่ต่ำกว่า 7,000 ล้านบาท ต่ำกว่าน้ำท่วมเมื่อปี 2543 ซึ่งเสียหาย 14,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากน้ำลดลงอย่างรวดเร็ว
ส่วนบรรยากาศตามย่านการค้าเช่นถนนนิพัทธ์อุทิศ3 ตลาดกิมหยง และหน้าตลาดพลาซ่าบรรดาพ่อค้าแม่ค้าได้นำสินค้าโดยเฉพาะเสื้อผ้าที่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม ออกมาเลหลังขายริมถนนในราคาถูกโดยมีผู้คนจากทั่วทุกสารทิศเดินทางมาเลือกซื้อเป็นจำนวนเป็นจำนวนมาก
เร่งฟื้นหาดใหญ่สั่งระวัง3จว.น้ำถล่มรอบสอง
อย่างไรก็ตาม ได้เกิดเหตุการณ์ชาวบ้านในชุมชนโชคสมาน เขตเทศบาลนครหาดใหญ่
เข้าปิดล้อมรถของ ตชด.เพื่อแย่งชิงอาหารและน้ำที่นำเข้าไปแจกจ่าย เนื่องจากหลายคนไม่ได้รับประทานอาหารมานานกว่า 2 วัน จนต้องมีการขอกำลังตำรวจเข้าไปดูแลสถานการณ์ โดยชาวบ้านคนหนึ่งเผยว่าติดอยู่ภายในบ้านมา3 วันโดยไม่ได้รับความช่วยเหลือใดๆไม่มีเรือเข้าไปแจกอาหารต้องทนทุกข์ทรมานอยู่ภายในบ้าน โชคดีที่น้ำลดเร็วจึงรอดตาย หากช้ากว่านี้ก็ไม่รู้ว่าจะรอดชีวิตหรือไม่
ขณะเดียวกัน เฮลิคอปเตอร์ ซีฮอว์ค ซึ่งเป็นเครื่องประจำเรือหลวงจักรีนฤเบศร ต้องบินกว่า 12 เที่่ยวเพื่อนำถุงยังชีพไปแจกจ่ายให้กับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนใน อ.หาดใหญ่ และจุดที่อยู่ห่างไกล โดย พล.ร.ท.วิฑูรย์ คันภีรพันธุ์ ผบ.ทัพเรือภาคที่ 2 ได้ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจทหารที่ปฏิบัติหน้าที่
ส่วนความคืบหน้าการค้นหาร่างของ ว่าที่ร้อยตรีวัชรัตน์ บุญฤทธิ์ อายุ 32 ปี ปลัดอำเภอจะนะ ที่ถูกน้ำซัดเรือพังและจมหายไปตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 1 พ.ย.
ขณะออกไปช่วยเหลือชาวบ้านที่ถูกน้ำท่วมในพื้นที่หมู่1 ต.ป่าชิง พร้อมกับอส.อีก2 คนและชาวบ้านที่นำทางอีก 1 คน ล่าสุดเมื่อเวลา 10.00 น.วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่พบศพว่าที่ร้อยตรีวัชรัตน์ลอยไปติดกับต้นไม้ ท่ามกลางความเศร้าของมารดาและภรรยาที่มาเฝ้าติดตามการค้นหาศพตลอด 3 วัน โดยเจ้าหน้าที่ได้นำธงชาติคลุมศพอย่างสมเกียรติ เนื่องจากผู้ตายปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือชาวบ้านอย่างกล้าหาญจนตัวตาย ซึ่งจะมีการปูนบำเหน็จอย่างเต็มที่ นอกจากนี้ ยังพบร่างของ นายพนม ปานช่วย อายุ40 ปี ชาวบ้านที่ร่วมเดินทางไปด้วยและถูกน้ำพัดร่างจมหายไปในเหตุการณ์เดียวกัน
นางพรรณี บุญฤทธิ์ มารดาของว่าที่ร้อยตรีวัชรัตน์ หรือ ปลัดเอ กล่าวด้วยน้ำตานองนาว่า บุตรชายเป็นคนดี ตั้งใจทำงาน
พอสอบผ่านและได้รับการบรรจุเป็นปลัดฯ ก็ขอย้ายลงในพื้นที่สีแดง ที่มีกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบก่อเหตุร้ายรายวัน เพราะบุตรชายต้องการดูแลสารทุกข์สุขดิบ ตลอดจนความปลอดภัยของชาวบ้าน ตนเคยห้ามแต่เขาก็ไม่ฟัง บอกเพียงแต่ว่าสงสารชาวบ้านที่ต้องอยู่อย่างหวาดผวา “ลูกชายป้าเป็นคนดี ตั้งใจทำงาน เวลาเห็นชาวบ้านเดือดร้อน เขาจะไปช่วยเหลือทันทีไม่มีรีรอ โดยช่วงปี 2554 เขามีโครงการจะแต่งงาน ป้าไม่คิดว่าจะต้องสูญเสียลูกชายไปจากเหตุการณ์ครั้งนี้”
ด้านสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสงขลา ได้สรุปตัวเลขผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์น้ำท่วมทั้งหมด10 ราย ส่วนความเสียหายของทรัพย์สินและพื้นที่การเกษตร กำลังอยู่ระหว่างการสำรวจ