"พระวิทยากร" ห่วงใยปัญหา หวั่น "พระเก๊" สวมรอยเล่นเฟซบุ๊กทำลายศาสนา ขณะที่ "ว.วชิรเมธี" ยอมรับมีจริง พระเล่นเฟซบุ๊กไม่เหมาะสม บางกรณีถึงขั้นเกี้ยวพาราสีสีกา จนทำให้สามีภรรยาทะเลาะกัน แนะชาวพุทธ ช่วยกันสอดส่องดูแลเป็นหูเป็นตา หากพบพฤติกรรมฉาวควรตักเตือนแก้ไขทันที
จากกรณีประชาคมชาวเฟซบุ๊ก (Facebook)
ได้ร้องเรียนสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เกี่ยวกับมีบรรดาพระตุ๊ด-เณรแต๋วใช้เฟซบุ๊กเป็นแหล่งสื่อสารข้อมูลไม่เหมาะสม รวมทั้งยังได้มีการนำข้อมูลแสดงความคิดเห็นตอบโต้กันว่าพระ-เณรสามารถเล่นเฟซบุ๊กได้หรือไม่ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 3 พ.ย. พระมหานภันต์ สันติภัทโท หัวหน้าพระวิทยากร สำนักงานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม และความมั่นคงแห่งสถาบันชาติ พระศาสนา พระมหากษัตริย์ กล่าวว่า
ยอมรับว่าเฟซบุ๊กเป็นเครื่องมือหนึ่งที่สามารถช่วยสื่อสารเผยแผ่ธรรมะ ส่วนกรณีพระ-เณรเล่นเฟซบุ๊กไม่เหมาะสมนั้น มีแนวทางแก้ 2 ส่วน คือ 1. ต้องแก้ที่ตัวบุคคล พระต้องใช้คำพูดที่เหมาะสม ไม่เน้นการชักชวนขอบริจาค และ 2. ต้องใช้กลไกทางสังคม หากทุกฝ่ายเห็นว่าพระมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมก็ต้องช่วยกันร้องเรียนและที่สำคัญเราชาวพุทธต้องช่วยกันดูด้วยว่า คนที่เข้ามาพูดจาและเกี้ยวพาราสีต่าง ๆ เป็นพระจริงด้วยหรือไม่
ด้านพระมหาวุฒิชัย (ว.วชิรเมธี) ผอ.สถาบันวิมุตตยาลัย กล่าวว่า การใช้เฟซบุ๊กเผยแผ่ธรรมะหรือหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา
เป็นช่องทางหนึ่งที่สำคัญในการส่งเสริมให้เด็กและเยาวชน รวมถึงคนรุ่นใหม่เข้าถึงหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา ซึ่งในส่วนเฟซบุ๊กของตนเน้นเผยแผ่เนื้อหาธรรมะล้วน ๆ และเน้นการสนทนาธรรมเป็นหลัก โดยขณะนี้มีสมาชิกมากถึง 3 แสนคน ส่วนอีกเว็บไซต์มีสมาชิก 2 แสนคน โดยทั้งหมดจะเข้ามาศึกษาหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา โดยเฉพาะคำสอนของท่านพุทธทาสภิกขุ
พระมหาวุฒิชัย กล่าวต่อว่า การแก้ปัญหาพระเล่นเฟซบุ๊กไม่เหมาะสม จะต้องเน้นพัฒนาพระสงฆ์ สามเณรให้รู้จักการใช้เทคโนโลยีอย่างเหมาะสม และต้องไม่ทำให้กระทบต่อวิกฤติศรัทธาของประชาชน ซึ่งประชาคมเฟซบุ๊กและประชาชนทั่วไปหากพบเห็นก็ต้องช่วยกันดูแลกระตุ้นเตือนช่วยกันแก้ไขสิ่งที่ไม่เหมาะสม นอกจากนี้ตน จะนำหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาเผยแผ่ผ่านทวิตเตอร์เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้เรียนรู้อีกทาง
“กรณีพระเล่นเฟซบุ๊กไม่เหมาะสมเคยเกิดขึ้นมาหลายครั้งแล้ว โดยมีครั้งหนึ่งพระรูปหนึ่งได้ไปพูดจาเกี้ยวพาราสีสีกาทำให้สามีเขาหึงหวงและเกิดวิวาทะกันใน เฟซบุ๊ก จนหญิงสาวคนดังกล่าวทะเลาะกับสามี ซึ่งอาตมาเองก็เคยพบเห็นปัญหาดังกล่าวและมีการพูดถึงในเฟซบุ๊กอย่างกว้างขวางจนประชาคมในเฟซบุ๊กรู้กันเป็นอย่างดีว่าเป็นพระรูปใด หากเราเจอพระที่มีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม เราชาวพุทธก็ต้องช่วยกันตักเตือน” ผอ. สถาบันวิมุตตยาลัย กล่าวทิ้งท้าย.