อยุธยานำโด่งเสียหายมากสุดเกือบ 2 แสนครัว

“มาร์ค”ลงพื้นที่จ่ายเงินเยียวยาน้ำท่วมล็อตแรกที่ปักธงชัย4 พ.ย.นี้ อยุธยานำโด่งเสียหายมากสุดเกือบ2แสนครัวเรือน

วันนี้ 3 พ.ย.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  ที่สำนักงานใหญ่ ธนาคารออมสิน นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง เปิดเผยว่า วันที่ 4 พ.ย.นี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี จะนำร่องลงพื้นที่ไปยัง อ.เมือง จ.นครราชสีมา ในเวลา 12.30 น. จากนั้นเดินทางไปวัดพระนารายมหาราช เพื่อมอบเงินชดเชยให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบน้ำท่วมครัวเรือนละ 5,000 บาท ให้ถึงมือประชาชนที่เดือดร้อน โดยมีธนาคารออมสินดำเนินการจ่ายเงินให้

ล่าสุด กระทรวงมหาดไทยได้จัดส่งรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับเงินช่วยเหลือล็อตแรกเข้ามาแล้ว 1,043 ครัวเรือน เป็นเงินสิ้น 5.215 ล้านบาท ที่ อ.ปักธงชัย  จ.นครราชสีมา ถือเป็นพื้นที่นำร่อง โดยผู้ประสบภัยสามารถติดต่อขอรับเงินได้ตั้งแต่วันที่ 4 พ.ย.เป็นต้นไปและไม่มีกำหนดเวลา จนกว่าจะได้ได้รับทั้งหมดทุกครัวเรือนที่ประสบภัยน้ำท่วม

ส่วนพื้นที่อื่น ๆ นั้น ต้องรอรายชื่อจากกระทรวงมหาดไทยก่อน ซึ่งมีกว่า 2,000 รายใน จ.โคราช

โดยประชาชนสามารถตรวจสอบรายชื่อได้ทางเว็บไซด์ของธนาคารออมสิน นอกจากนั้นจะประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อในท้องถิ่นต่าง ๆ เพื่อให้ประชาชนทราบข้อมูลอย่างทั่วถึง คาดว่าภายใน 1 เดือนเงินจะถึงมีประชาชนที่เดือดร้อนกว่า 632,288 ครัวเรือนได้ทั้งหมด โดยส่วนนี้จะใช้เงิน 3,161 ล้านบาท ยังไม่รวมพื้นที่ที่เพิ่งประสบภัยภาคใต้ และอีกหลายจังหวัดที่เพิ่งได้รับรายงานเข้ามาเพิ่มเติม เช่น ชัยนาท นครนายก นครสวรรค์ อุบลราชธานี อุทัยธานี ทั้งนี้จะเป็นการโอนเงินจากงบกลางมาที่ออมสิน แต่หากไม่ทันออมสินจะทดลองจ่ายไปก่อนได้ เพราะมีสภาพคล่องเหลือพอ

สำหรับวิธีการจ่ายเงินให้ผู้ประสบภัยนั้น ผู้ประสบภัยเลือกได้ว่าจะให้จ่ายเงินสดหรือโอนเงินเข้าบัญชี โดยเบื้องต้นธนาคารออมสินจะจ่ายเป็นเงินสด 5,000 บาท

ซึ่งจะมีทั้งธนบัตรใบ 1,000 บาท 500 บาท และ 100 บาท โดยขอให้เจ้าบ้านมารับด้วยตัวเอง เพื่อป้อกันปัญหาการรั่วไหล หรือการถูกค่าหัวคิว ซึ่งขณะนี้มีรายชื่ออยู่ที่ออมสินแล้ว ตามที่กระทรวงมหาดไทยตรวจสอบและรับรองมา เพียงนำบัตรประจำตัวประชาชนหรือบัตรอื่น ๆ ที่เป็นหลักฐานทางราชการมายืนยัน ก็สามารถรับเงินได้ทันทีที่สาขาของออมสิน หรือผ่านทางรถโมบาย 65 คัน ที่จะเคลื่อนที่เข้าไปถึงพื้นที่ แต่หากเจ้าบ้านไม่สามารถมารับได้ด้วยตัวเอง สามารถมอบอำนาจให้บุคคลอื่นมารับแทนได้เพียงคนเดียวเท่านั้น ส่วนกรณีที่เอกสารสูญหายให้อบต.ออกหนังสือรับรองเพื่อนำมาใช้เป็นหลักฐานการรับเงิน

 “การจ่ายเงินช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อนจากน้ำท่วมนี้ มีเป้าหมายให้ผู้ที่อยู่อาศัยจริง ไม่ใช่เจ้าบ้าน กรณีของบ้านเช่าผู้ได้รับเงินคือผู้เช่า ซึ่งกรณีนี้ ได้ย้ำกับกระทรวงมหาดไทยไปแล้ว ในการกรอกข้อมูลรายชื่อให้ถูกต้อง ส่วนของเจ้าบ้านนั้นจะได้รับเงินชดเชยความเสียหายต่างหาก กรณีที่บ้านเสียหายบาง ส่วนจะได้รับเงินชดเชยไม่เกิน 20,000 บาท เสียหายทั้งหลังได้รับชดเชย 30,000 บาท และกรณีบ้านพังต้องสร้างใหม่จะได้รับชดเชย 100,000 บาท ซึ่งเป็นไปตามหลักระเบียบของกระทรวงการคลัง รวมทั้งต้องได้รับการตรวจสอบจากมหาดไทยก่อน ซึ่งจะได้รับเงินชดเชยหลังน้ำลด”

อย่างไรก็ตามเงินที่เตรียมไว้เบื้องต้น 20,000 ล้านบาท

ในการจ่ายชดเชยความเดือดร้อนและเสียหายของอาคารบ้านเรือนและพืชผลทางการเกษตรที่เตรียมไว้  20,000 ล้านบาทอาจไม่เพียงพอ ซึ่งนายอภิสิทธิ์กำชับให้ทุกส่วนราชการไปทบทวนโครงการใช้เงินใหม่ เพื่อนำมาจัดสรร ช่วยเหลือประชาชนและพื้นที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ทั้งการซ่อมแซมโรงเรียน โรงพยาบาล ถนน ต่าง ๆ โดยน่าจะสรุปตัวเลขได้ภายในสัปดาห์นี้ รวมถึงการดึงเงินในโครงการไทยเข้มแข็ง 55 มาใช้บรรเทาปัญหาน้ำท่วมน่าจะเสนอครม.ได้วันที่ 9 พ.ย.นี้

ทั้งนี้ รายชื่อที่กระทรวงมหาดไทยแจ้งมา มีเบื้องต้นครอบคลุมเพียง  38 จังหวัด และอยุธยาเป็นจังหวัดมีผู้ได้รับเงินชดเชยมากสุด 160,000 ครัวเรือน รองลงมาคือนครราชสีมา  88,000 ครัวเรือน และลพบุรี 73,000 ครัวเรือน แต่เป็นตัวเลขที่ต้องตรวจสอบความถูกต้องอีกครั้ง