กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) รายงานช่วงวันที่ 10 ตุลาคม-2 พฤศจิกายน 2553 มีผู้เสียชีวิตจากสถานการณ์อุทกภัย รวม 104 ราย ใน 20 จังหวัด
ซึ่ง ปภ.จะได้ประสานสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดดำเนินการให้ความช่วยเหลือค่าจัดการศพตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ และเงินช่วยเหลือเพิ่มเติมจากกองทุนช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี
นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า ภาวะฝนตกหนักในระหว่างวันที่ 10 ตุลาคม -1 พฤศจิกายน 2553 ส่งผลให้เกิดสถานการณ์อุทกภัยใน 38 จังหวัด ทำให้มีผู้เสียชีวิตรวม 104 ราย ใน 20 จังหวัด ได้แก่
นครราชสีมา 22 ราย บุรีรัมย์ 6 ราย
ลพบุรี 13 ราย ขอนแก่น 4 ราย
ระยอง 1 ราย ตราด 1 ราย
สระแก้ว 1 ราย
ชัยภูมิ 3 ราย(เพิ่ม 1 ราย)
สระบุรี 4 ราย
นครสวรรค์ 13 ราย
อุทัยธานี 1 ราย
ชัยนาท 3 ราย
นนทบุรี 3 ราย
กำแพงเพชร 3 ราย
สุพรรณบุรี 6 ราย (เพิ่ม 1 ราย)
พิจิตร 1 ราย
ปทุมธานี 3 ราย
พระนครศรีอยุธยา 7 ราย
เพชรบูรณ์ 2 ราย
สิงห์บุรี 7 ราย(เพิ่ม 6 ราย)
จากการวิเคราะห์สถิติผู้เสียชีวิต พบว่า สาเหตุสำคัญที่ทำให้เสียชีวิต ได้แก่ การจมน้ำจากการลงจับสัตว์น้ำ เก็บของในน้ำ การปล่อยให้เด็กลงเล่นน้ำ และการถูกไฟฟ้าดูด
โดยผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุและเด็ก ทั้งนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจะดำเนินการให้ความช่วยเหลือค่าจัดการศพตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ โดยจ่ายค่าจัดการศพแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิตจ่ายรายละไม่เกิน 25,000 บาท หากเป็นหัวหน้าครอบครัวจ่ายเงินช่วยเหลืออีกไม่เกิน 25,000 บาท รวมเป็น 50,000 บาท รวมถึงจะประสานกับกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี จ่ายเงินค่าจัดการศพผู้เสียชีวิตอีกรายละ 50,000 บาท ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมาตรการพิเศษช่วยเหลือญาติผู้เสียชีวิตจากสถานการณ์อุทกภัยเมื่อวันอังคารที่ 26 ตุลาคม 2553 ทั้งนี้ ญาติผู้เสียชีวิตจะได้รับค่าจัดการศพผู้เสียชีวิตรายละ 75,000 บาท หากเป็นหัวหน้าครอบครัวจะได้รับค่าจัดการศพ 100,000 บาท
สำหรับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัย สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ที่ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 18 เขต สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด 75 จังหวัด หรือสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง