นายสมบัติ ตรีวัฒน์สุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นเปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำที่ไหลเข้าท่วมพื้นที่จังหวัดขอนแก่นว่า ตอนนี้น้ำจากชัยภูมินั้นได้เคลื่อนตัวเข้าจังหวัดขอนแก่นมาถึงอำเภอมัญจาคีรีในปริมาณที่เพิ่มขึ้นแต่ลดลงจากแต่ก่อน
โดยคาดการณ์ว่าในวันที่ 1 พ.ย น้ำจะสูงขึ้น 50-60 เซนติเมตร ทำให้ในเขตพื้นที่ตำบลท่าพระ และตำบลกุดกว้าง ซึ่งอยู่ในอำเภอเมืองจังหวัดขอนแก่นท่วมหนัก และบริเวณหมู่บ้านตามลำน้ำชี แต่น้ำที่ไหลมานั้นจะไม่เข้าในตัวเมืองขอนแก่นแน่นอน
ทั้งนี้ทางจังหวัดได้ประสานงานไปยังนายอำเภอและป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจ.ขอนแก่น (ปภ.) เพื่อประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชนใน 2 พื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดน้ำท่วมที่จะถึงนี้ ให้เตรียมยกสิ่งของขึ้นที่สูง และให้เคลื่อนย้ายออกจากพื้นที่เสี่ยง เพราะคาดว่าน้ำจะเข้าท่วมหนักกินเวลากว่า 2 อาทิตย์ ซึ่งจะทำให้ประชาชนได้รับความเดือนร้อนเป็นอย่างมาก
ทางจังหวัดได้ประสานงานขอให้ทางด้านเขื่อนอุบลรัตน์นั้นปล่อยน้ำไม่เกิน 35 ล้าน ลบ.ม. จนกว่าจะถึงวันที่ 1 พ.ย.เพื่อควบคุมปริมาณน้ำเข้าท่วมพื้นที่ อ.โนนสัง จ.หนองบัวลำภู
ซึ่งอยู่บริเวณพื่นที่เหนือเขื่อนอุบลรัตน์ เนื่องจากหากปล่อยปริมาณน้ำเกินกว่านี้อาจทำให้น้ำเข้าท่วมจังหวัดขอนแก่นหนักขึ้น
“จังหวัดขอนแก่นนั้นถือได้ว่าโชคดีเนื่องจากมีแก้มลิง และฝ้ายจำนวน 4-5 แห่งช่วยรับน้ำที่ไหลเข้ามานั้น ซึ่งทำให้ช่วยตัวความสูงของน้ำให้ลดลงก่อนที่จะเข้าเมืองขอนแก่นได้ ส่วนสถานการณ์อื่นนั้นไม่น่าเป็นห่วงมากนัก เพราะทุกหน่วยงานได้ให้ความร่วมมือในการเข้ามาช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือนร้อนจากอุทกภัย”นายสมบัติกล่าว
อย่างไรก็ตามสถานการณ์อุทกภัยในจังหวัดขอนแก่นนั้นได้สร้างความเสียหายให้ประชาชนกว่า 2 แสนคน และ4 หมื่น หลังคาเรือน ซึ่งอยู่ในเขตพื้นที่13 อำเภอ 58 ตำบล 533 หมู่บ้าน 4 ชุมชน แต่ปัจจุบันปัญหาได้คลี่คลายไปแล้ว 2 อำเภอ คือ อำเภอชุมแพและภูผาม่าน