คมชัดลึก :ผู้ว่าฯกทม.มั่นใจน้ำเจ้าพระยาสูงไม่เกิน 2.5 เมตรกทม.รับมือไหว ด้านรองอธิบดีกรมชลฯเตือนชาวบางไทรเก็บของหนีน้ำก่อนทะเลหนุนสูง ขณะที่เทศบาลปทุมธานีเร่งกู้น้ำในตลาดสดหลังแนวกั้นน้ำพัง สมเด็จพระเทพฯพระราชทานถุงยังชีพช่วยชาวบางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา
(23ต.ค.) เวลา 13.00 น. ที่ศาลาว่าการ กทม. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.)
แถลงมาตการป้องกันและความพร้อมในการรับมือป้องกันน้ำท่วมในพื้นที่ กทม. ว่า ขณะนี้สถานการณ์น้ำที่เกิดขึ้น เรียกว่า Perfect Storm หรือ สถานการณ์น้ำที่มาเจอกัน 3 น้ำ คือ น้ำฝน น้ำเหนือ และน้ำทะเลหนุนสูงพร้อมกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งปริมาณน้ำเหนือที่ไหลหลากจำนวนมาก จนเขื่อนต่างๆ ไม่สามารถรองรับได้ ล่าสุดวันนี้(23 ต.ค.) กรมชลประทานได้ระบายน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยาและเขื่อนพระราม 6 สู่แม่น้ำเจ้าพระยาเพื่อออกทะเลเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ รวมปริมาณน้ำที่ไหลผ่านกทม. 4,323 ลูกบาศก์เมตร/วินาที ส่วนระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่ปากคลองตลาดสูงสุดในช่วงเช้า เวลา 07.00 น. อยู่ที่ระดับ + 1.76 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง(รทก.)
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า สำหรับการเตรียมรับมือและป้องกันปัญหาน้ำท่วมฉับพลัน กทม.ได้กำหนด 5 มาตรการ
เพื่อลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากน้ำล้นทะลักเข้าท่วมพื้นที่กทม.ดังนี้ 1.สั่งให้นำกระสอบทราย 200,000 ใบ จากที่ได้สำรองไว้ 4,000,000 ใบ อุดจุดฟันหลอทุกจุดตามแนวเขื่อนริมแม่น้ำเจ้าพระยา นอกแนวคันกั้นน้ำทั้ง 2 ฝั่ง 2.นำกระสอบทรายไปเสริมแนวคันกั้นน้ำให้สูงขึ้นตามจุดเสี่ยงน้ำท่วมในพื้นที่ต่างๆ 3.ประสานกรมชลประทานใกล้ชิดเพื่อปล่อยน้ำจากเขื่อนอย่างเป็นระบบ และมีประสิทธิภาพสูงสุด ลดโอกาสการเกิดน้ำท่วมให้มากที่สุด ซึ่งเป็นจุดสำคัญที่จะช่วยป้องกันไม่ให้น้ำไหลงมามีปริมาณมาก 4. สร้างสะพานไม้และทางเดินชั่วคราวครอบคลุม27 ชุมชน ในพื้นที่ 13 เขต ที่เสี่ยงน้ำท่วม และ 5.เตรียมพร้อมเครื่องสูบน้ำขนาด 4-20 นิ้ว จำนวนกว่า 1,065 เครื่อง ติดตั้งไว้ในจุดสำคัญต่างๆ และพร้อมใช้งานทันทีหากเกิดเหตุการณ์น้ำท่วม
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีที่กรมชลประทานแจ้งเตือนให้กทม.เสริมแนวกระสอบทรายริมเจ้าพระยาให้สูงขึ้นอีก 1 เมตร จากเดิมที่มีความสูง 2.5 เมตร นั้น ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า เนื่องจากแนวคันกั้นน้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา ของกทม.มีระยะทาง 77 กิโลเมตร ดังนั้นไม่สามารถทำได้ทั้งหมด อีกทั้งขณะนี้ตนยังไม่คิดว่าระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาจะสูงเกิน 2.5 เมตร
“ผมลืมขอเทวดามาเนรมิตให้ เพราะเป็นไปไม่ได้ที่ กทม.จะวางกระสอบทรายเป็นล้านๆใบ ภายใน 2 วันได้ เนื่องจากแนวกั้นน้ำของ กทม. มีระยะทางยาวถึง 77 กิโลเมตร ทั้งนี้ ผมยอมรับว่าสถานการณ์อยู่ในขั้นวิกฤต เพราะเป็นปรากฎการณ์ Perfect Storm แต่ไม่อยากให้ประชาชนตื่นตระหนก เพราะกทม.จะดูแลสถานการณ์อย่างดีที่สุด และยืนยันว่าขณะนี้แนวเขื่อนของ กทม.ยังอยู่ในภาวะที่รับน้ำได้ ” ผู้ว่าฯ กทม. ระบุ
กทม.เชื่อน้ำสูงไม่เกิน2.5ม.รับมือไหว
ด้านนายวีระ วงศ์แสงนาค รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า แนวโน้มปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยายังสูงขึ้น
เนื่องจากมีน้ำเหนือไหลหลากลงมาต่อเนื่องเพราะฝนตกหนัก บริเวณพื้นที่ลุ่มแม่น้ำปิงตอนล่าง และลุ่มน้ำยม และผลจากการประมวลวิเคราะห์สถานการณ์ล่าสุดพบว่าปริมาณน้ำเหนือใน จ.นครสวรรค์ ยังคงต่อเนื่อง ประกอบกับจะมีปริมาณน้ำในลุ่มน้ำสะแกกรัง ไหลลงมาสมทบอีก ทำให้ปริมาณน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยามีปริมาณน้ำเพิ่มมากขึ้น
รองอธิบดีกรมชลประทานกล่าวต่อว่าระหว่างวันที่ 25-27 ตุลาคมนี้ จะเป็นช่วงที่น้ำทะเลหนุนสูงสุด คาดการณ์ปริมาณน้ำที่ไหลผ่าน อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา จะมีปริมาณน้ำในเกณฑ์สูง 3,500-4,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จึงแจ้งเตือนชาว อ.บางไทร ให้เก็บข้าวของหนีน้ำและติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด
นายสมร ชูสว่าง รองนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองปทุมธานี นำเจ้าหน้าที่เทศบาลออกช่วยป้องกันคันกั้นน้ำตลาดสดศิริวัฒนา
หลังจากแนวกระสอบทรายริมแม่น้ำเจ้าพระยาถูกคลื่นซัดทำให้กระสอบทรายไหลตามแรงทำให้กระสอบทรายไหลลง น้ำเข้าท่วมพื้นที่ตลาดสด โดยได้มีการทำแนวกระสอบทรายกั้นน้ำใหม่และได้ดูดน้ำออกจากพื้นที่ในตลาดจนแห้ง หลังน้ำลดลงร้านค้าต่างๆได้ช่วยกันก่ออิฐเสริมแนวหน้าร้านสูงขึ้น 1.20 เมตร เพื่อป้องกันน้ำจะเข้าท่วมอีก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี
ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้นายทหารจากโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า และนักเรียนนายร้อย เป็นผู้แทนพระองค์นำถุงยังชีพและของพระราชทาน มอบแก่ประชาชนในเขต ม.1-3 ต.บ้านกุ่ม อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งถูกน้ำท่วมอย่างหนักสูงกว่า 2 เมตร และเส้นทางเข้าออกชุมขนถูกตัดขายทั้งหมด โดยชาวบ้านต้องพายเรือข้ามบ่อทราบเพื่อมาจุดถนนคันคลองชลประทาน ระยะทางกว่า 1 กม. เพื่อเป็นเส้นทางเข้าออกชุมชน อย่างไรก็ตามพบว่าพื้นที่ อ.บางบาล ยังมีระดับน้ำท่วมสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเริ่มไหลบ่าล้นถนนคันคลองชลประทานในหลายจุดเข้าทุ่งนาแล้วเช่นกัน
ขณะที่นายธีรวุฒิ ศิริวรรณ ปลัดจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ร่วมในกิจกรรมรับสิ่งของพระราชทาน กล่าวถึงความเสียหายจากน้ำท่วมเขต จ.พระนครศรีอยุธยา
สรุป ณ วันที่ 23 ตุลาคม พบว่าน้ำท่วมแล้วครบทุกอำเภอในจังหวัดที่ 16 อำเภอ โดยมีตำบลที่ถูกน้ำท่วม 183 ตำบล 1,277 หมู่บ้าน ประชาชนเดือนร้อน 328,625 คน มีคนจมน้ำตาย 2 คน วัดถูกน้ำท่วม 62 แห่ง มัสยิด 13 แห่ง โรงเรียน 64 แห่ง และไร่นาเสียหาย 263,590 ไร่