นายชลิต ดำรงศักดิ์ อธิบดีกรมชลประทาน กระทรวงเกษตรฯ
กล่าวถึงการเตรียมรับสถานการณ์น้ำท่วมอันเนื่องมาจากน้ำทะเลหนุนระหว่างวันที่ 24-27 ต.ค.นี้ว่า ก่อนหน้านี้ทางกรมได้วางแผนไว้แล้ว โดยได้ก็เร่งระบายน้ำที่ท่วมขังอยู่สองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาออกมาให้มากที่สุดก่อนน้ำทะเลหนุน เพราะเวลาน้ำทะเลหนุนเราอาจจะระบายได้ช้า และสาเหตุที่ต้องเร่ง ก็เพราะต้องลดความเดือดร้อนของประชาชนแถวลพบุรี อยุธยา ฯลฯ
"น้ำจากอยุธยาหลังจากนี้ก็จะลงมาเข้าปทุม ลพบุรี กรุงเทพ สมุทรปราการ แล้วไปออกอ่าวไทย ซึ่งตรงนี้เราออกประกาศไปแล้ว แจ้งเตือนไปเมื่อวานล่าสุดว่าปริมาณน้ำเจ้าพระยาค่อนข้างมาก เนื่องจากฝนตกสะสมที่ผ่านมา และเมื่อวันสองวันก่อนก็มีฝนตกทางเหนือ อย่างที่ตาก นครสวรรค์ เป็นปริมาณร้อยกว่ามิลลิเมตร น้ำเลยสะสม เรียกว่าวิกฤตพอสมควร ต้องระวังพอสมควร เราจึงออกประกาศแจ้งเตือน โดยเฉพาะอยุธยา ปทุมธานี นนทบุรี ให้ระวังช่วงนี้น้ำจะสูง ซึ่งน่าเป็นห่วงมากปีนี้สำหรับแม่น้ำเจ้าพระยา" นายชลิต กล่าว
นายชลิต กล่าวต่อว่าขณะนี้ทางกรมพยายามจัดสรรน้ำด้วยการเอาออกให้มากที่สุด แต่ช่วงนี้ฝนก็ยังตกอยู่ ทำให้สถานการณ์ค่อนข้างวิกฤต
อย่างไรก็ตามเราจะติดตามสถานการณ์เรื่อยๆ และเจ้าหน้าที่ก็อยู่ในพื้นที่ตลอดเพื่อประมวลและแจ้งเตือน แต่ตนขอย้ำว่าค่อนข้างวิกฤต โดยเฉพาะช่วงที่กทม.มีน้ำทะเลหนุน
นอกจากนี้นายชลิตยังกล่าวด้วยว่า กรมชลประทานได้ปล่อยเรือสุขาพัฒนาออกไปให้บริการประชาชนที่ได้รับความเดือนดร้อนครบแล้วทั้ง 3 ลำ
คือเกาะเกร็ด 2 ลำ และเทศบาลนครนนทบุรีอีก 1 ลำ ซึ่ง โดย 1 ลำเป็นเรือที่กรมนำเรือเหล็กขนาด 45 ตันมาดัดแปลงเป็นเรือสุขาอละออกให้บริการมาตั้งแต่ปี 2538 ภายหลังพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระเทพรัตน์ราชสุดา ได้พระราชทุนทรัพย์ให้ เราจึงได้ทำขึ้นอีก 2 ลำ เพื่อใช้ลดความเดือดร้อนของประชาชน