ล่าสุดเมื่อเวลา 01.30 น. วันที่ 20 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น้ำป่าทะลักล้นสปิลเวย์เขื่อนลำปะทาว อ.เมืองชัยภูมิ
กระแสน้ำไหลอย่างรุนแรงเข้าเขตเทศบาลเมืองชัยภูมิ ระดับน้ำเฉลี่ย 0.9-2.5 เมตร ครอบคลุมพื้นที่ 25 ชุมชน ชาวบ้านกว่า 2 หมื่นครอบครัว เร่งขนย้ายสิ่งของหนีขึ้นที่สูงอย่างทุลักทุเล เจ้าหน้าที่ต้องติดป้ายประกาศรถทุกชนิดไม่สามารถเข้าตัวเมืองได้ ถือเป็นการปิดเมืองแบบ 100 เปอร์เซ็นต์ และหนักที่สุดในรอบ 30 ปี
ช่วงสายวันเดียวกัน ระดับน้ำยังเพิ่มสูงต่อเนื่อง โดยเฉพาะที่ชุมชนบ้านกุดแคน และชุมชนหนองบ่อ วัดได้กว่า 3.50 เมตร
ชาวบ้านกว่า 300 หลังคาเรือน ไม่สามารถอาศัยอยู่บนชั้น 2 ของบ้านได้ เจ้าหน้าที่ต้องนำรถยีเอ็มซี ช่วยอพยพออกมาประมาณ 200 คน มาพักที่จุดตั้งเต็นท์ที่หน้าแขวงการทางชัยภูมิ กม.2 ต.บ้านเล่า อ.เมืองชัยภูมิ อย่างไรก็ตาม ยังมีชาวบ้านบางส่วนติดค้างอยู่ตามบ้านเรือน เนื่องจากระดับน้ำสูงและพัดรุนแรง ถือเป็นอุปสรรคในการเข้าช่วยเหลือ ขณะที่จวนผู้ว่าฯ นำสูงเกือบ 1 เมตร
นายจรินทร์ จักกะพาก ผู้ว่าฯ ชัยภูมิ กล่าวว่า ตัวเมืองชัยภูมิบางส่วนไม่สามารถนำเรือที่ไม่มีเครื่องยนต์เข้าไปช่วยเหลือประชาชนได้
เพราะกระแสน้ำพัดรุนแรงมาก รวมทั้งจุดถนนสายบรรณราการ หน้าศาลากลางจังหวัด และรอบอนุสาวรีย์เจ้าพ่อพญาแล กลางใจเมืองชัยภูมิมีระดับน้ำสูงกว่า 2 เมตร เราประสบปัญหาขาดแคลนเรือจำนวนมากที่จะช่วยส่งอาหารให้ผู้ประสบภัย