นายโมฮัมหมัด มาห์ฟัด ประธานศาลรัฐธรรมนูญแห่งอินโดนีเซีย ได้กล่าวสนับสนุนให้มีการลงโทษผู้ที่กระทำผิดข้อหาคอร์รัปชัน
โดยการประหารชีวิต เพื่อเป็นแนวทางหนึ่งในการกวาดล้างการทุจริตฉ้อฉลที่แพร่ระบาดไปทั่วประเทศในขณะนี้ ซึ่งนำแบบอย่างมาจากประเทศจีน ซึ่งระบุไว้ว่า โทษประหารชีวิตถูกนำมาบังคับใช้ "โดยปราศจากการคัดค้านจากประชาชน"
"โทษประหารชีวิต สามารถนำมาใช้ได้หากเกิดสถานการณ์ที่มีความเสี่ยงมาก จีนก็นำวิธีนี้ไปปฏิบัติจนประสบความสำเร็จมาแล้ว และประชาชนก็มีความพึงพอใจต่อวิธีการนี้เช่นกัน" เขากล่าวเสริม
"ในอินโดนีเซีย บุคคลที่ถูกกล่าวหาว่ามีความผิดในข้อหาทุจริต อาจถูกจำคุกเพียง 3-4 ปี เท่านั้น ซึ่งน้อยกว่าความผิดลหุโทษเสียอีก" นายมาห์ฟัด กล่าวในเว็บไซด์แห่งหนึ่ง
"จีนได้นำวิธีการลงโทษเช่นนี้ไปปฏิบัติ และมันก็มีผลทำให้การทุจริตลดลงตามไปด้วย และหากมีการนำวิธีนี้มาประยุกต์ใช้ในอินโดนีเซีย มันจะช่วยลดจำนวนคดีการคอร์รัปชันได้มากที่เดียว"
ในปัจจุบัน อินโดนีเซียลงโทษบุคคลที่มีความผิดในข้อหาก่ออาชญากรรม ค้ายาเสพติด และก่อการร้าย ด้วยการประหารชีวิต
เมื่อปีที่แล้ว หน่วยงานจัดอันดับความโปร่งใสนานาชาติ ได้จัดให้อินโดนีเซีย อยู่ในอันดับที่ 111 จากทั้งหมด 180 ประเทศ ที่มีความโปร่งใสมากที่สุด
ประธานาธิบดีซูซิโล บัมบัง ยูโดโยโน แห่งอินโดนีเซีย ให้คำสัญญา หลังจากที่ได้รับเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งเป็นสมัยที่สอง เมื่อปี 2009 ว่าจะทำการถอนรากถอนโคนการทุจริตคอร์รัปชัน ซึ่งเป็นตัวการบ่อนทำลายประเทศให้สิ้นซาก
กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) กล่าวเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมาว่า ทางการอินโดนีเซียต้องขจัดการทุจริตคอร์รัปชันออกไปจากประเทศเป็นอันดับแรก ถ้าหากว่าต้องการให้ตนอยู่ในฐานะประเทศที่มีการดำเนินการทางเศรษฐกิจชั้นนำของโลก