กรมชลประทาน แจ้งเตือนระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำป่าสักจะสูงขึ้นในระยะนี้
วันนี้ 18 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศูนย์ประมวลวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ กรมชลประทาน เปิดเผยว่า ตามที่ได้เกิดสภาวะฝนตกหนักในหลายพื้นที่ภาคกลางตั้งแต่วันที่ 14 – 16 ตุลาคม 2553 นั้น จากการติดตามสภาพฝนในเขตลุ่มน้ำเจ้าพระยาและลุ่มน้ำป่าสัก มีฝนตกสะสม 3 วัน ในเขตจังหวัดนครสวรรค์ วัดได้ 104 มิลลิเมตร จังหวัดลพบุรีวัดได้ 253.60 มิลลิเมตร และจังหวัดเพชรบูรณ์ วัดได้ 174.50 มิลลิเมตร ส่งผลให้ระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาจะเพิ่มสูงขึ้น รวมทั้งเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์มีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำจำนวนมาก
ดังนั้น เพื่อให้การบริหารจัดการน้ำเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ กรมชลประทาน มีความจำเป็นต้องเร่งพร่องน้ำ
ทั้งเขื่อนเจ้าพระยาและเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ในระดับที่จะพยายามควบคุมปริมาณน้ำให้อยู่ในศักยภาพของลำน้ำที่จะรับได้ โดยไม่ให้เกิดปัญหาน้ำล้นตลิ่ง ตั้งแต่วันที่15 ตุลาคม 2553 เป็นต้นไป จนกว่าจะสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ กรอปกับในช่วงวันที่ 16 – 22 ตุลาคม 2553 เป็นช่วงที่น้ำทะเลยังไม่หนุนสูง จึงเป็นโอกาสที่จะเร่งพร่องน้ำให้ไหลลงสู่ทะเลได้มากขึ้น โดยไม่ให้มีผลกระทบต่อพื้นที่ตลอดลำน้ำจนถึงตอนล่างในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
สำหรับในช่วงระหว่างวันที่ 23 – 26 ตุลาคม 2553 ซึ่งจะเป็นช่วงที่เกิดภาวะน้ำทะเลหนุนสูงสุดนั้น
กรมชลประทาน จะได้ปรับแผนด้วยการลดการระบายน้ำให้สัมพันธ์กับน้ำทะเลหนุนสูง โดยไม่ให้ส่งผลกระทบในลุ่มน้ำ ทั้งนี้ กรมชลประทาน ได้ทำหนังสือแจ้งถึงสถานการณ์น้ำที่เกิดขึ้นในระยะนี้ ไปยังจังหวัดต่างๆในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่าง เพื่อให้ดำเนินการแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำป่าสักทราบถึงสถานการณ์น้ำในระยะนี้แล้ว หากเหตุการณ์เปลี่ยนแปลงไปอย่างไรจะแจ้งให้ทราบต่อไป