3 ใน 33 คน ของคนงานที่ติดอยู่ในเหมืองซาน โฮเซ่ ประเทศชิลี
ได้รับอนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว แต่ยังไม่มีการระบุที่แน่ชัดว่าจะเป็นใคร โดยทั้งสามเดินทางออกจากโรงพยาบาล ด้วยรถยนต์สีขาว ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยที่แน่นหนา
โดยเจ้าหน้าที่กล่าวว่า คนงานเหมืองทุกคนสามารถตอบสนองต่อการรักษาได้ดี และอาจมีคนงานเหมืองอีกหลายคนอาจกลับบ้านได้ภายในวันศุกร์นี้ (15 ตค.)
โดยประธานาธิบดีเซบาสเตียน พิเญร่า ซึ่งเข้าเยี่ยมคนงานเหมืองทั้งหมดที่โรงพยาบาล สัญญากับพวกเขาว่า เขาจะไม่ยินยอมให้พวกเขากลับไปทำงานใน "สภาพที่ไม่เหมาะสมกับมนุษย์" เช่นนั้นอีก
นายแพทย์ฮอร์เก้ มอนเตส รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลโคปิอาโป กล่าวว่า
"ข้อความที่ต้องการแจ้งให้ทุกคนทราบก็คือ พวกเขามีอาการที่ดีขึ้นเรื่อยๆ เราเชื่อว่าคนงาน 3 คน จะสามารถกลับบ้านได้ในวันศุกร์หรือวันเสาร์นี้"
เมื่อถามว่าพวกเขาสามารถออกจากโรงพยาบาลได้ก่อนวันจันทร์หรือไม่ เขาตอบว่า "ใช่ อาจเป็นช่วงสุดสัปดาห์นี้ ถ้าไม่มีอะไรเกิดขึ้น"
แต่อย่างไรก็ตาม เขาได้เตือนว่า "สภาพทางจิตของผู้ป่วยเป็นสิ่งที่เรายากจะคาดเดา"
โดยผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า
อาการบางอย่างหลังจาการอยู่ใต้ดินเป็นเวลานานและขึ้นมาสู่ผิวดินเร็วเกินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลกระทบด้านจิตใจ เช่น ภาวะหวาดผวา (post-traumatic stress disorder) และอาการนอนไม่หลับในเวลากลางคืน อาจใช้เวลานานนับปีจึงจะดีขึ้น
และนอกเหนือจากการรักษาทางร่างกายแล้ว แพทย์ยังเอาใจใส่เป็นพิเศษต่ออาการที่อาจเกิดขึ้น อาทิ ภาวะฝันร้าย ภาวะตื่นกลัว ความวิตกกังวล และโรคกลัวที่ปิดทึบ และอาการอื่นๆที่อาจเกี่ยวข้อง เช่นความสามารถในการรับมือกับสังคม และความมีชื่อเสียงที่ถาโถมเข้ามาอย่างรวดเร็ว
โดยนายเอดิสัน พีญ่า คนงานเหมืองรายหนึ่ง ซึ่งเป็นแฟนเพลงของเอลวิส เพรสลีย์ ได้รับเชิญให้ไปเยี่ยมคฤหาสน์ "เกรซแลนด์" ของเอลวิส ที่เมืองเมมฟิส รัฐเทนเนสซี สหรัฐอเมริกา
ในขณะที่ทีมฟุตบอลอย่างรีล มาดริด และแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้เชิญพวกเขาให้ไปชมการแข่งขันในยุโรป ส่วนนักธุรกิจรายหนึ่งมอบเงินให้พวกเขาคนละ 10,000 เหรียญสหรัฐ ในขณะที่บริษัทแอปเปิ้ล ส่งเครื่องเล่นไอพ็อดรุ่นล่าสุดให้พวกเขา และบริษัทของกรีซแห่งหนึ่งเสนอบริการนำเที่ยวให้เช่นกัน
นอกจากนั้น พวกเขายังได้รับข้อเสนองานจากบริษัทต่างๆ การถ่ายโฆษณา หรือแม้แต่การเขียนหนังสือเพื่อเล่าถึงเรื่องราวดังกล่าว และการสร้างเป็นภาพยนตร์อีกด้วย