ชาวบ้านวิจารณ์แซด พิธีแห่พระงานเทศกาลกินเจหาดใหญ่ นำเด็กอายุแค่ 10 ขวบมาเป็น′ม้าทรง′ใช้เหล็กแหลมทิ่มแทงปากจนทะลุ ′ครูยุ่น′เรียกร้องหน่วยงานเข้าตรวจสอบ
ระบุเป็นการละเมิดสิทธิและทำร้ายจิตใจเด็กอย่างรุนแรง ทั้งยังผิดกฎหมายคุ้มครองเด็ก แนะให้เร่งห้ามปรามก่อนสังคมจะมองเป็นเรื่องชาชิน ด้านตำรวจผกก. หาดใหญ่ สั่งตรวจสอบกับกรรมการจัดงานทันทีว่านำเด็กมาเป็นม้าทรงจริงหรือไม่ ถ้าจริงจะสั่งห้ามปรามทันที
เทศกาลกินเจหาดใหญ่นำเด็ก 10 ขวบ มาเป็นม้าทรง จนถูกวิจารณ์ว่าไม่เหมาะสมครั้งนี้ เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 13 ต.ค. ที่สวนหย่อมศุภสารรังสรรค์ หน้ามูลนิธิท่งเซียเซี่ยงตึ๊ง เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ จ.สงขลา นายวิญญู ทองสกุล ผวจ.สงขลา เป็นประธานเปิดงานเทศกาลกินเจหาดใหญ่ประจำปี โดยมีประชาชนชาวหาดใหญ่ และนักท่องเที่ยวชาวไทยและมาเลเซีย มาร่วมพิธีจำนวนมาก
พิธีเริ่มจากขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ การแสดงของคณะมังกรทองชุดพิเศษ จุดพลุ 9 นัด แจกลูกท้อทองคำ 999 ลูก โดยเฉพาะพิธีสำคัญคือขบวนแห่พระ ที่มีบรรดาม้าทรงของแต่ละศาลเจ้า ใช้เหล็กแหลมทิ่มแทงตามร่างกาย ร่วมขบวนแห่รอบเมืองหาดใหญ่ ซึ่งในบรรดาม้าทรงนอก จากผู้ใหญ่แล้ว ยังนำเด็กอายุแค่ 10 ขวบ มาเป็นม้าทรง ใช้เหล็กแหลมแทงปากเป็นที่น่าหวาด เสียว จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสม
พ.ต.อ.จิรวัฒน์ พยุงธรรม ผกก.สภ.หาดใหญ่ กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวว่า ได้สั่งการเจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลความเรียบร้อยและความปลอดภัยในขบวนแห่พระ และม้าทรงก็อยู่ในขบวนแห่ด้วย แต่ในเบื้องต้นไม่พบว่ามีการนำเด็กมาเป็นม้าทรง ม้าทรงส่วนใหญ่ที่เข้าร่วมขบวนแห่ครั้งนี้จะเป็นวัยรุ่นอายุ 18-25 ปี จนถึงวัยผู้ใหญ่ แต่เมื่อได้รับแจ้งว่ามีการนำเด็กมาเป็นม้าทรง ก็จะเข้าไปตรวจสอบ โดยจะสอบถามคณะกรรมการจัดงานว่า นำเด็กมาเป็นม้าทรงหรือไม่ หากมีจริงก็จะพูดคุยเจรจาห้ามปรามกันก่อน เพราะการนำเด็กร่วมเดินในขบวนนั้นทำได้ แต่หากมีการกระทำที่เหมือนผู้ใหญ่ถือเป็นเรื่องไม่ถูกต้องและไม่ควรทำอย่างยิ่ง
ละเมิดเด็ก แทงปากม้าทรง8ขวบ
ขณะที่นายมนตรี สินทวิชัย หรือครูยุ่น เลขาธิการมูลนิธิคุ้มครองเด็ก กล่าวว่า การที่ผู้ใหญ่ซึ่งบรรลุนิติภาวะแล้วนำเหล็กแหลมแทงทะลุเข้าไปกระพุ้งแก้ม ก็เป็นสิทธิของผู้ใหญ่ แต่การนำเด็กมาทำตามนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ควรอย่างยิ่ง เพราะถือเป็นการละเมิดสิทธิเด็ก ทำร้ายจิตใจเด็กอย่างรุนแรง ทั้งยังผิดต่อกฎหมายคุ้มครองเด็กด้วย ถึงแม้พ่อแม่เด็กจะอนุญาตก็ตามแต่ไม่สมควรทำ เพราะเป็นการทำร้ายจิตใจเด็ก เนื่อง จากเด็กต้องทำตามที่ผู้ใหญ่สั่ง
"เป็นการกระทำที่ผิดต่อพ.ร.บ.คุ้มครองเด็กชัดเจนแน่นอน การนำเด็กมาทำตามผู้ใหญ่เป็นเรื่องไม่ถูกต้อง โดยเฉพาะการเอาของแหลมทิ่มเข้าไปในปาก อันตรายอย่างมาก แม้แต่ผู้ใหญ่ บางคนที่เห็นผู้ใหญ่ด้วยกันทำ ยังรู้สึกหวาดเสียว รู้สึกเจ็บแทน รู้สึกกลัว การทำกับเด็กด้วย ยิ่งทำให้รู้สึกไม่ดีมากกว่าเดิม อนาคตอาจจะเสี่ยงต่อการพัฒนาการของเด็กด้านการเจริญเติบโต และในส่วนลึกๆ อาจมีผลทำให้จิตใจเด็กได้รับผลกระทบ" ครูยุ่นกล่าว
เลขาธิการมูลนิธิคุ้มครองเด็ก กล่าวต่อว่า เรื่องนี้หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวกับเด็กในระดับจังหวัดต้องเข้าไปตรวจสอบ เบื้องต้นต้องเข้าไปห้ามปราม ไม่ให้มีการกระทำในลักษณะนี้อีก เพราะหากมีแนวคิดว่าไม่เป็นไร ทำได้ อนาคตก็จะเกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก จนกลายเป็นเรื่องชาชินและเคยชินไป ถ้าไม่เร่งช่วยกันป้องกันจะเข้าทำนองวัวหายแล้วล้อมคอก จะเสียใจภายหลัง ดังนั้น ต้องช่วยกันป้องกัน การกระทำอย่างนี้ไม่ได้แอบทำ แต่กระทำในที่สาธารณะ เห็นกันทุกคน เจ้าหน้าที่รัฐต้องเข้าไปดำเนินการ ขั้นแรกอาจตักเตือนก่อนก็ได้ อย่างน้อยผู้ใหญ่ก็ควรเคารพสิทธิของเด็กด้วย และเมื่อเด็กเหล่านี้โตขึ้นเขาจะตัดสินใจได้เองว่าจะเข้าร่วมหรือไม่
ด้านนายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ หรือครูหยุย เลขาธิการมูลนิธิสร้างสรรค์เด็ก กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า เขาคงมีวิธีการหรือการสอนที่ปลอดภัยและไม่เกิดอันตรายต่อตัวเด็ก แต่กระนั้นก็ตามการนำเด็ก 10 ขวบ มาเป็นม้าทรง เป็นเรื่องที่สมควรต้องติติงในเรื่องความเหมาะสมเพื่อป้องกันการเลียนแบบของเยาวชน