เมื่อ 11.00 น. วันที่ 14 ต.ค. 53 ผู้สื่อข่าวรายได้รับแจ้งจากนายสาธิต ธรรมประดิษฐ์ นายอำเภอทุ่งหว้า จ.สตูล
ว่าเมื่อคืนที่ผ่านมาได้เกิดลมพายุพัดยอดเมรุ เผาศพ ของวัดชมพูนิมิตร ในเขตเทศบาลตำบลทุ่งหว้า แตกหักหล่นลงมาทำให้หลังคาและเสาเมรุพังเสียหายด้วย และลมพายุยังได้พัดหลังคาบ้านเรือนเสียหายเพียงเล็กน้อย โดยกระเบื้องหลังคาพังเสียหายหลังละ 4-5 แผ่น จำนวนประมาณ 100 หลังคาเรือน ในพื้นที่บ้านคีรีวง หมู่ 9 ต.ทุ่งหว้า อ.ทุ่งหว้า เสียหายขณะนี้ให้เขาหน้าที่เข้าตรวจสอบและให้การช่วยเหลือเบื้องต้น พร้อมรายงานให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูลทราบและรายงานให้สำนักงานป้องกันและสาธารณภัย จงสตูลดำเนินการให้การช่วยเหลือต่อไปแล้ว
นอกจากนี้ยังได้เกิดน้ำทะเลหนุนสูงเข้าท่วมในพื้นที่ ต.ขอนคลาน ต.ทุ่งบุหลัง อ.ทุ่งหว้า จ.สตูล โดยน้ำทะเลได้ท่วมถนนเสียหาย 3 สาย และเข้าท่วมสวนพริก สวนปาล์มและบ่อปลาในพื้นที่เสียหายขณะนี้อยู่ระหว่างการสำรวจความเสียหาย เพื่อช่วยเหลือต่อไปแล้ว
สำหรับฝนตกหนักติดต่อกันต่อเนื่องเนื่องจากเมื่อวานนี้และมีลมกรรโชกแรงในพื้นที่ จ.สตูลมาเป็นเวลา 2 วันแล้ว คาดว่าหากฝนยังตกตกต่อไปอาจน้ำน้ำป่าไหลหลากและน้ำท่วมขังในพื้นที่ราบลุ่มได้ในระยะนี้
วันเดียวกัน ที่จังหวัดพิจิตรว่า หลังจากที่ฝนตกลงมาอย่างหนักตลอดทั้งวันทั้งคืน
ทำให้ บ้านเรือน ที่อาศัยปลูกอยู่ริมตลิ่งแม่น้ำน่านบริเวณ ถนนชูเชิดน่าน ทางทิศเหนือ ในเขตเทศบาล เมืองบางมูลนาก อำเภอบางมูลนาก จังหวัดพิจิตร ได้ เกิดทรุดตัวลงพังไปในในแม่น้ำน่านเนื่องจากดินไหลลงไปในน้ำบ้านเรือนพังไปจำนวน 8 หลังคาเรือนโดยเฉพาะ บ้านของนางชนาภา กุลชัย อายุ 53 ปี พังลงน้ำไปกว่าครึ่งหลัง ชาวบ้าน เร่งขนย้ายสิ่งของกันจ้าละหวั่น เนื่องจากดินดังกล่าว สะไร้ลงทรุดตัวลงไปอย่างต่อเนื่อง
นาย ธีระ พงศ์สุขธีรสุทธิ์ รองปลัดเทศบาลเมืองบางมูลนาก กล่าวว่า ขณะนี้ยังเป็นห่วงอีก 20 กว่าหลังคาเรือน ที่มีดินแตกแยก และเริ่มที่จะทรุดตัวอีก ซึ่งตนเองจะไปรายงานให้กับนายนิเวศน์ น้อยอ่ำ ให้ประกาศพื้นที่ดังกล่าว เป็นพื้นที่เสี่ยง
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
