แหล่งข่าวจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยว่า เมื่อไม่นานมานี้ ศาลอาญามีคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำที่ อ.๑๑๕๗/๒๕๕๒ ที่มีบริษัท มาโชแมน จำกัด โดยนายวีรชดานัย ปราบราย เป็นจำเลยที่ ๑ และนายวีรชดานัย ปราบราย เป็นจำเลยที่ ๒ ในความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๔๓ วรรคแรก ประกอบมาตรา ๘๓ พระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.๒๕๒๗ มาตรา ๔ วรรคหนึ่ง, มาตรา ๕ และมาตรา ๑๒ การกระทำของจำเลยทั้งสองเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๙๑ รวม ๙๗ กระทง แต่ละกระทงเป็นการกระทำกรรมเดียว แต่เป็นความผิดตามกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตามพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนฯ อันเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๙๐ ให้ปรับจำเลยที่ ๑ กระทงลง ๕๐๐,๐๐๐ บาท
จำคุกจำเลยที่ ๒ กระทงละ ๕ ปี รวม ๙๗ กระทง เป็นปรับจำเลยที่ ๑ เป็นเงิน ๔๘,๕๐๐,๐๐๐ บาท จำคุกจำเลยที่ ๒ รวม ๔๘๕ ปี แต่ความผิดดังกล่าวมีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงไม่เกิน ๑๐ ปี จึงให้จำคุกจำเลยที่ ๒ เป็นเวลา ๒๐ ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๙๑ (๒) หากจำเลยที่ ๑ ไม่ชำระค่าปรับ ให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙ และให้จำเลยที่ ๑ และจำเลยที่ ๒ ร่วมกันคืนเงินต้น (เงินที่นำมาร่วมลงทุน) ให้แก่ผู้เสียหายแต่ละราย ตามจำนวนที่ผู้เสียหายแต่ละรายนำมาให้จำเลยที่ ๑ และจำเลยที่ ๒ กู้ยืมแล้วยังไม่ได้คืนแก่ผู้เสียหาย ยกฟ้องจำเลยที่ ๓ ถึงจำเลยที่ ๗ พนักงานอัยการไม่อุทธรณ์ อธิบดีดีเอสไอ เห็นพ้องด้วยกับความเห็นไม่อุทธรณ์ของพนักงานอัยการ
พฤติการณ์แห่งคดี จำเลยที่ ๑ กับพวก ได้ร่วมกันจัดตั้ง บริษัท มาโชแมน จำกัด และโฆษณาชักชวนประชาชนร่วมลงทุนกับบริษัทฯ ด้วยการบรรยายและแจกแผ่นปลิวแผนการลงทุนต่าง ๆ เช่น ลงทุน ๑ หุ้น ด้วยเงิน ๑,๔๕๐ บาท ได้ข้าวสารหนัก ๕๐ กิโลกรัม ๑ กระสอบ หากไม่รับข้าวสาร จะคืนเงินให้ ๗๒๕ บาท เหลือเงินลงทุนจริง ๗๒๕ บาท และหากแนะนำสมาชิกต่อไปจะได้ค่าแนะนำเป็นชั้น ๆ คือ ๑๐๐ บาท, ๒๐ บาท และ ๑๕ บาท ตามลำดับ และเมื่อลงทุนครบ ๓๐ วันจะได้เงินปันผลหุ้นละ ๑,๐๐๐ บาท อีก ๔๕ วันต่อมาได้เงินปันผลอีก ๑,๐๐๐ บาท และสินค้าอื่น ๆ อีกในลักษณะคล้ายคลึงกัน เพื่อจูงใจให้ประชาชนมาร่วมลงทุนและหาสมาชิกเพิ่มเติมต่อไปอีก
และนอกจากนี้ยังได้ชักชวนให้ประชาชนบางส่วนหาสมาชิกร่วมลงทุนโดยให้ค่าดำเนินการ มีผู้ร่วมหาสมาชิกโดยเก็บเงินจากสมาชิกแล้วส่งให้บริษัทฯ หลายราย ทั้งที่บริษัทฯ ไม่ได้ดำเนินกิจการใด ๆ ที่จะได้ผลกำไรมากพอที่จะจ่ายเป็นผลตอบแทนให้สมาชิกได้ ซึ่งผลตอบแทนที่จ่ายนั้นสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยสูงสุดที่สถาบันการเงินจะพึงจ่ายได้ คดีนี้มีมูลค่าความเสียหาย ๔,๘๑๒,๙๕๘ บาท
หลังจากนี้ สำนักคดีอาญาพิเศษจะได้ดำเนินคดีอาญาฟอกเงินกับจำเลยทั้งสอง และส่งเรื่องให้กับสำนักป้องปรามการเงินนอกระบบ สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง เพื่อดำเนินคดีล้มละลายต่อไป สำหรับคดี "แชร์ข้าวสาร" ของบริษัทอีซี่เน็ตเวอร์ก มาร์เก็ตติ้ง จำกัด และบริษัท สมคิดธุรกิจ จำกัด ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาสืบพยานในชั้นศาล
แหล่งข่าว จาก ดีเอสไอ. กล่าวว่า ประชาชนควรระมัดระวังการลงทุนในรูปแบบที่มิได้เน้นการขายสินค้า แต่กลับมุ่งเน้นหาสมาชิกเข้าร่วมเครือข่ายเป็นรายได้หลัก โดยตกลงว่าจะให้ผลประโยชน์ตอบแทนที่สูงมาก ๆ จากการหาผู้เข้าร่วมเครือข่ายดังกล่าว ซึ่งคำนวณจากจำนวนผู้เข้าร่วมเครือข่ายที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นความผิดตามมาตรา ๑๙ แห่งพระราชบัญญัติการขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ.๒๕๔๕
จากคำให้การของผู้เสียหายเมื่อสมัครเป็นสมาชิกแล้ว มักจะได้รับการแนะนำจากผู้บรรยายแผนธุรกิจเสมอว่า ไม่ต้องรักษายอดขาย หรือไม่ต้องขายสินค้า เพียงแต่หาสมาชิกเข้าร่วมเครือข่ายเพียงอย่างเดียว หามากได้มาก หาน้อยได้น้อย หาช้าได้ช้า หาเร็วได้เร็ว จึงทำให้เกิดการระดมทุนและกลายเป็นแชร์ลูกโซ่ไปในที่สุด การจ่ายผลตอบแทนในลักษณะจับคู่จ่าย หรือขยายเครือข่ายสร้างองค์กรก็ดี การจ่ายโบนัสแมทซ์ชิ่งต่าง ๆ ก็ดี บุคคลที่อยู่บนสุดแม้ไม่ต้องขายสินค้าก็จะมีรายได้เข้าไปตลอดไม่ว่าจะเป็นการขยายเครือข่ายสร้างองค์กรของสมาชิกชั้นลูก หลาน เหลน หรือโหลน
หากคิดตัวเลขคร่าว ๆ ของการจ่ายผลตอบแทนเพียง ๑๐ ชั้น พบว่ามีการจ่ายผลตอบแทนสำหรับผู้มีตำแหน่งสูงสุดเกินร้อยละ ๑๐๐ และสำหรับผู้มีตำแหน่งต่ำสุดจะอยู่ที่ร้อยละ ๙๐ ขึ้นไป ซึ่งไม่มีทางเป็นไปได้ในทางธุรกิจการค้า เพราะอย่างน้อยต้นทุนของสินค้าก็เข้าไปประมาณร้อยละ ๒๐ - ๔๐ แล้ว นอกจากนั้นยังมีค่าจ้างพนักงาน ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ของบริษัทอีกเป็นจำนวนมาก (แสดงว่าบริษัทดังกล่าวไม่มีต้นทุนการผลิตสินค้า ซึ่งเป็นไปไม่ได้) แล้วเงินที่นำมาจ่ายผลตอบแทนให้กับสมาชิกทั้งหลายจะมาจากที่ใด เมื่อแผนการตลาดมิได้มุ่งเน้นการขายและแพร่กระจายสินค้าไปสู่ผู้บริโภค แต่กลับไปมุ่งเน้นที่การหาสมาชิกเข้าร่วมเครือข่ายเป็นหลัก ซึ่งผิดกฎหมายว่าด้วยการขายตรงและตลาดแบบตรง
พิพากษาผู้ต้องหาคดีแชร์ข้าวสาร 485 ปี ปรับ 48.5 ล้านบาท
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวอื่นๆ พิพากษาผู้ต้องหาคดีแชร์ข้าวสาร 485 ปี ปรับ 48.5 ล้านบาท