สนพ.คาดน้ำมันเตรียมปรับขึ้นใน 1-2 วัน ตามราคาตลาดโลก ขณะที่แอลพีจียังตรึงราคาถึงก.พ.54
ส่วนราคาก๊าซหุงต้มตลาดโลก ล่าสุดขยับขึ้นตามราคาน้ำมัน โดยสูงถึง 690 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน มีผลให้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงจะต้องจ่ายส่วนต่างการนำเข้าให้แก่ บมจ.ปตท. ซึ่งเป็นผู้นำเข้ารายเดียวในสัดส่วนสูงขึ้น แต่ภาพรวมยังไม่จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนการเรียกเก็บเงินกองทุนน้ำมันเชื้อ เพลิงแต่อย่างใด ล่าสุดเงินกองทุนที่ไหลเข้ายังอยู่ระดับ 700-800 ล้านบาทต่อเดือน
ทั้งนี้จากการหารือร่วมกับธุรกิจพลังงาน เพื่อประเมินปริมาณผลิตแอลพีจีและการใช้แอลพีจี ในช่วงไตรมาส 4 และปี 2554
พบว่า การใช้ปีหน้าจะยังขยายตัว 8-9% และประเทศไทยยังจำเป็นต้องนำเข้าแอลพีจี คาดว่าไม่ต่ำกว่า 40,000-50,000 ตันต่อเดือนในปีหน้า แม้โรงแยกก๊าซฯ ที่ 6 จะกลับมาเดินเครื่องผลิตใน 2 เดือนข้างหน้าก็ตาม อย่างไรก็ตาม ทางกระทรวงพลังงานมีนโยบายจะตรึงราคาแอลพีจีจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2554 และตามนโยบายนายกรัฐมนตรีกำหนดให้แยกราคา โดยให้ราคาภาคการขนส่งและภาคครัวเรือนเป็นราคาแอลพีจีที่เกิดจากการผลิตก๊าซ ในประเทศ ขณะที่ภาคอุตสาหกรรมจะมีการลอยตัวตามตลาดโลก แนวทางนี้อาจจะทำให้การใช้ภาคอุตสาหกรรมไม่ขยายตัวมากนัก และยังเป็นการลดภาระเงินกองทุนที่จ่ายค่าชดเชยการนำเข้าแอลพีจีอีกด้วย