ยกระดับการศึกษา อสม.เรียนต่อ ม.ปลาย ฟรี

สธ.เดินหน้ายกระดับการศึกษา อสม.เข้าเรียนต่อ ม.ปลายนอกระบบฟรี ตั้งเป้าปี 54 สามแสนคน พร้อมให้สิทธิพิเศษอื้อ

วันนี้ (30 ก.ย.) ที่โรงแรมทวินโลตัส จ.นครศรีธรรมราช ดร.พรรณสิริ กุลนาถศิริ รมช.สาธารณสุข พร้อมด้วย นายแพทย์สถาพร วงษ์เจริญ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดการประชุม ชี้แจงแนวทางการปฏิบัติงาน เพื่อขับเคลื่อนโครงการพัฒนาการศึกษาขั้นพื้นฐานอาสาสมัครสาธารณสุข โดยมีผู้บริหาร นักวิชาการผู้รับผิดชอบงานสุขภาพภาคประชาชน ครูหมออนามัย อสม. ครูประจำกลุ่ม ในพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้ เข้าร่วมประชุมกว่า 300 คน

ดร.พรรณสิริ กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายยกระดับการศึกษาให้กับอาสาสมัครสาธารณสุข หรือ อสม.ทั่วประเทศ จำนวน 987,019 คน ให้จบการศึกษาขั้นพื้นฐาน

ซึ่งจะช่วยเพิ่มศักยภาพของ อสม.ในการทำงานเชิงรุก เพื่อพัฒนาสุขภาพประชาชน เป็นแกนหลักในการจัดทำแผนสุขภาพตำบล และชุมชน ประสานเชื่อมโยงชุมชนกับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยข้อมูลของกรมสนับสนุนบริการสุขภาพพบว่า อสม.มีระดับการศึกษาตั้งแต่ไม่จบประถมศึกษา จนถึงจบการศึกษาระดับปริญญาเอก แต่ส่วนใหญ่กว่าร้อยละ 80 เรียนไม่จบการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย

ดร.พรรณสิริ กล่าวต่อว่า กระทรวงสาธารณสุขได้จัดทำโครงการ “อสม.อนาคตดี ไปเรียนฟรีกับ กศน.”

โดยร่วมมือกับกระทรวงศึกษาธิการ พัฒนาหลักสูตรการศึกษาให้ อสม.เรียนต่อจนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ในระบบการศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัย ตั้งเป้ารับ อสม.เข้าเรียนต่อในปีการศึกษา 2554 จำนวน 300,000 คน ซึ่งนอกจากจะเรียนฟรีแล้ว ยังได้รับสิทธิพิเศษเทียบโอนผลการเรียนได้ และหากเป็น อสม.ดีเด่น เทียบโอนเพิ่มได้อีก รวมทั้งสามารถนำผลการปฏิบัติงานด้านสุขภาพใน 14 ภารกิจ มาเทียบโอนได้ ซึ่งจะช่วยให้ อสม.เรียนจบเร็วขึ้นกว่าคนทั่วไป

นอกจากนี้ จะเร่งรับสมัคร และอบรมเจ้าหน้าที่สาธารณสุข และ อสม.ที่เรียนจบปริญญาตรี อำเภอละ 2 คน ให้แล้วเสร็จภายในเดือน ม.ค.2554

เพื่อเป็นครูประจำกลุ่มช่วยจัดการเรียนรู้เป็นที่ปรึกษาให้กับ อสม. และจะประสานความร่วมมือกับสถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษา จัดสรรโควตาเรียนต่อระดับวิทยาลัย เพื่อให้ อสม.ที่เรียนจบจาก กศน.มีโอกาสเรียนต่อจนจบปริญญาตรีต่อไป

ทั้งนี้ จะเปิดรับสมัครพร้อมกันทั่วประเทศในเดือน ต.ค.2553 นี้ โดย อสม.สามารถสมัครเข้าเรียน และขอเทียบโอนหน่วยกิต ที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล หรือสถานบริการสาธารณสุขใกล้บ้าน และสอบถามรายละเอียดได้ที่ สำนักงานสาธารณสุขอำเภอ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด ศูนย์การศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัยใกล้บ้าน.