เร่งทีโอที เดินหน้าโครงการ 3 จี ตามมติครม. งบเฉียด 2 หมื่นล้านให้ใช้บริการได้ภายใน 6 เดือน ครอบคลุม 12-15 จังหวัด ด้าน "มาร์ค-กรณ์" ลั่นไม่ให้คลังค้ำประกันความเสี่ยง เหตุเป็นการดำเนินกิจการในเชิงพาณิชย์ ที่ทีโอทีต้องตั้งหน่วยงานจัดทำแผนบริหารความเสี่ยงเอง
เมื่อวันที่ 28 ก.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวัชระ กรรณิการ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
เปิดเผยว่า ที่ประชุมครม. อนุมัติแผนธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ยุคที่ 3 (3จี) ของบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) หรือ ทีโอที มูลค่า 19,980 ล้านบาท ตาม ที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการ สื่อสาร (ไอซีที) เสนอ เนื่องจากบริษัทในฐานะผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมแบบที่ 3 สามารถมีสิทธิหรือประกอบกิจการโดยใช้คลื่นความถี่ที่ได้รับการจัดสรรในการบริการโทรศัพท์ 3จีได้ตามกฎหมายและคาดว่าจะใช้บริการได้ภายใน 6 เดือน พร้อมทั้งเห็นชอบให้ทีโอทีเปลี่ยน แปลงการประกวดราคาสากลเป็นการประ กวดราคาทั่วไป เพราะจะช่วยร่นระยะเวลาการดำเนินให้เร็วขึ้นจาก 150 วันเหลือ 90 วันหรือลดลง 60 วัน
ทั้งนี้ระหว่างการประชุม นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง ได้แสดงความเห็นว่า 3จี ของทีโอทีถือเป็นการลงทุนเชิงธุรกิจ
กระทรวงการคลังยืนยันจะไม่ค้ำประกันความเสี่ยงให้ และนายกรัฐมนตรีก็เห็นด้วยกับแนวคิดของกระทรวงการคลัง ดังนั้นที่ประชุมจึงสั่งให้ทีโอทีตั้งหน่วยงานขึ้นมาเพื่อ จัดทำแผนบริหารความเสี่ยงของทีโอทีด้วย
ขณะที่นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.เทคโน โลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ให้เหตุผลว่า 3 จี ของทีโอทีจะสามารถดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว
เนื่องจากปัจจุบันบริษัทชั้นนำด้านโทรคมนาคมทุกบริษัทมีผู้แทนและสาขาอยู่ในประเทศไม่ต่ำกว่า 5 ราย ดังนั้น จึงมีผู้เข้าประกวดราคาในประเทศมากเพียงพอที่จะก่อให้เกิดการแข่งขันอย่างสมบูรณ์และนำมาซึ่งข้อเสนอด้านเทคนิคและราคาที่ดีที่สุดและเป็นประโยชน์ต่อทีโอทีได้
ทีโอทีเดินหน้าโครงการ 3จี
ทั้งนี้การใช้วิธีการประกวดราคาทั่วไปภายในประเทศแทนวิธีการประกวดราคาสากลจะประหยัดเวลาการดำเนินงานได้ประมาณ 60 วัน
และช่วยให้ บมจ.ทีโอที สามารถพัฒนาระบบโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ ยุคที่ 3 ได้แล้วเสร็จก่อนผู้ประกอบการรายอื่นและทุกขั้นตอนสามารถเสร็จสิ้นและสามารถให้บริการได้ภายใน 6 เดือน โดยการดำเนินการ 3 จีของทีโอทีจะมีการตั้งบริษัทลูกขึ้นมาเพื่อดำเนินการทั้งหมด และการให้บริการจะครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 12-15 จังหวัด ประมาณ 50% ของพื้นที่ทั่วประเทศ
“การลงทุนโครงการสร้างโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ยุคที่ 3 วงเงิน 19,980 ล้านบาท ลดลงจากเดิม 10,000 ล้านบาท โดยจะมีการปรับปรุงโครงสร้างองค์กรของทีโอทีด้วยการตั้งบริษัทลูกขึ้นมาบริหารรวมทั้งใช้โครงข่ายร่วมกันเพื่อลดความซ้ำซ้อนในการลงทุน และจะมีการปรับปรุง สถานีให้บริการ 3 จี จาก 4,700 สถานี ให้ เพิ่มเป็น 5,400 สถานี โดยจะครอบคลุมพื้นที่กทม.และจังหวัดอื่น ๆ รวม 12-15 จังหวัด น่าจะได้เห็นภายใน 6 เดือน” รมว. ไอซีที กล่าว
อีกด้านหนึ่งที่พรรคประชาธิปัตย์ วันเดียวกัน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายก รัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่คณะรัฐมนตรี (ครม.)
มีมติเห็นชอบให้บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ลงทุนแผนธุรกิจโครงสร้างโครงข่ายโทรศัพท์ระบบ 3จี ด้วยวงเงิน 1.9 หมื่นล้านบาทว่า ก็มีส่วนได้บ้างที่ทำให้การใช้ระบบ 3จี เป็นได้รวดเร็วขึ้น แต่ไม่สามารถทดแทนความชัดเจนเรื่องของการประกอบการ 3จี ทั้งหมดได้ ทั้งนี้ที่จริงแล้ว โครงข่ายหลัก ขณะนี้รัฐบาลพยายามเร่งรัดและมีหลักคิดที่จะไม่ให้ลงทุนซ้ำซ้อนและเดินหน้าในการลงทุนเท่าที่จะทำได้ส่วนหนึ่ง
ส่วนความคุ้มค่าในการดำเนินการ ก็อยู่ในเกณฑ์ดีและมีการปรับตัวเลขลงมา เทียบกับเมื่อปี 2551 จะเห็นได้ชัดว่าใช้เงินน้อยกว่า แต่เรื่องของการประกอบก็ต้อง ทำในลักษณะของการค้าส่ง ซึ่งไม่ใช่การค้าปลีก ส่วนจะถูกต้องหรือไม่ที่จะมีการตั้งบริษัทลูกเข้ามาแข่งขันนั้น ก็ต้องไปดูกติกาในการกำกับอีกที.