สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 28 ก.ย.ว่า นครวัด หนึ่งในสถาปัตยกรรมเอกโบราณที่ถูกขึ้นบัญชีมรดกโลกของยูเนสโก้
กำลังเผชิญสถานการณ์ระส่ำ เสี่ยงต่อการร้าวหรือทรุดตัว จากการที่บรรดาบริษัทเอกชนได้ลอบสูบน้ำประปาใต้ดินในจังหวัดเสียมเรียบ จากสภาพการเติบโตของนักท่องเที่ยวและประชากรของจังหวัดเสียมเรียบที่เพิ่มขึ้น โดยขณะนี้ปรากฎว่า มีการสูบน้ำประปาอย่างผิดกฎหมายของบริษัทเอกชนกัมพูชาหลายพันแห่งทั่วเมือง โดยดึงน้ำประปาจากพื้นที่เฉลี่ยนับล้านลิตรต่อวัน และ"ยูเอสโก้"ระบุว่า ยูเนสโก้รับทราบว่า มีโรงแรมจำนวนมากได้สูบน้ำประปาในเมืองเสียมเรียบ และหน่วยงานกำลังวิตกต่อสถานการณ์ดังกล่าว และหากพบว่า มีการใช้น้ำเกิน ก็อาจกระทบต่อตัวประสาทนครวัด เพราะประสาทนครวัดสร้างอยู่บนโครงสร้าที่เป็นดินทราย
รายงานระบุว่า น้ำถือเป็นแหล่งบริโภคสำคัญของเมืองเสียมเรียบ โดยเฉพาะในช่วงหน้าแล้ง
ซึ่งเป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวจะเข้ามาเยี่ยมชมมรดกโลกอันน่าทึ่งนี้ และปีนี้คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นเป็นจำนวน 1.6 ล้านคน นอกจากนี้ เสียมเรียบยังเผชิญปัญหาการขยายตัวของประชากร ซึ่งได้เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวในช่วงสิบปี หรือเพิ่มขึ้นเป็นจำนวน 200,000 คน
ขณะที่การประปาจังหวัดเสียมเรียบชองรัฐ ก่อนหน้านี้ได้สูบน้ำประปาจากใต้ดินมาใช้เฉลี่ยวันละ 9 ล้านลิตรต่อวสัน แต่ประเมินว่า ปัจจุบัน มีกิจการเอกชนกว่า 4 พันแห่งได้ลอบสูบน้ำ และใช้น้ำในบ่อน้ำ เฉลี่ยตกวันละ 50 ล้านลิตรต่อวัน