ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนยกฟ้องคดี ผอ.-แพทย์ รพ.วชิรปราการ ผ่าตัดขโมยไตคนไข้ขาย ชี้พยานโจทก์ไร้น้ำหนัก
ที่ห้องพิจารณาคดี 904 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก วันที่ 23 ก.ย. 53 เวลา 09.30 น. ศาลออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ในคดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ และ นางหนูแดง ดีโยธา กับ นายเจริญ ดีโยธา มารดา และบิดาของ น.ส.ลัดดา ดีโยธา เป็นโจทก์ร่วม ฟ้อง นพ.สิโรจน์ กาญจนปัญจพล อดีตผู้อำนวยการ รพ.วชิรปราการ จ.สมุทรปราการ นพ.วีระเดช เลิศดำรงลักษณ์ นายนันทวิทย์ ธงไชย อดีตผู้จัดการ รพ.วชิรปราการ และ นพ.วิวัฒน์ ถิระพานิช ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1-4 ในความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ปลอมเอกสาร และใช้เอกสารปลอม
ตามฟ้องโจทก์บรรยายสรุปว่า น.พ.สิโรจน์ จำเลยที่ 1 น.พ.วีระเดช จำเลยที่ 2 และนายนันทวิทย์ จำเลยที่ 3 ได้ร่วมกันปลอมเอกสารหนังสืออุทิศอวัยวะของ น.ส.ลัดดา ดีโยธา และ นางนงค์ พรมมา ต่อมา จำเลยที่ 1 จำเลยที่ 2 และ นพ.วิวัฒน์ จำเลยที่ 4 ได้ร่วมกันผ่าตัดเอาตับ และไตของคนไข้ทั้งสองออกไป ขณะที่ คนไข้ยังไม่ถึงแก่ความตาย เพื่อนำไปปลูกถ่ายอวัยวะให้ผู้ป่วยรายอื่น เป็นเหตุให้คนไข้ทั้งสองถึงแก่ความตาย เหตุเกิดเมื่อปี 2540 หลังเกิดเหตุญาติของคนไข้ที่เสียชีวิตได้เข้าร้องเรียนต่อกองปราบปรามให้ดำเนินคดีกับผู้ เกี่ยวข้องดังกล่าว
ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 22 ก.พ.48 โดยเห็นว่าแม้หนังสืออุทิศอวัยวะจะมีการเติมข้อความด้วยลายมือว่า “ตับ” ลงในเอกสาร แต่พยานโจทก์ไม่ได้ยืนยันในรายละเอียดว่า เหมือนกับลายมือของจำเลยที่ 1 จึงมีข้ออันควรสงสัยว่าจำเลยที่ 1 จะเป็นผู้เขียนข้อความดังกล่าว ลงในหนังสืออุทิศอวัยวะของคนไข้ จึงยกประโยชน์แห่งความสงสัยนั้น ให้แก่จำเลยที่ 1 ในข้อหาปลอม และใช้เอกสารปลอม
ส่วนในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา โจทก์ไม่มีพยานหลักฐานนำสืบให้เห็นได้ว่า มีการใช้ยา หรือมีการทำโดยประการใด ๆ ของพวกจำเลย ทำให้คนไข้ทั้งสองแกนสมองตายโดยเจตนา ข้อเท็จจริงจึงรับฟังได้ว่า คนไข้ทั้งสองถึงแก่ความตายแล้วก่อนที่จะมีการผ่าตัดนำอวัยวะ (ไต และตับ) ออกไป จึงพิพากษาให้ยกฟ้อง แต่ให้ขัง นพ.สิโรจน์ จำเลยที่ 1 ไว้ในระหว่างอุทธรณ์
ต่อมา อัยการโจทก์ยื่นอุทธรณ์ขอให้ศาลลงโทษจำเลยตามความผิด
ศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือกันแล้วเห็นว่า การกระทำของจำเลยไม่มีความผิด ที่ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษานั้นชอบแล้ว ศาลอุทธรณ์เห็นฟ้องด้วย พิพากษายืน.