เมื่อวันที่ 22 กันยายน นายประวิทย์ ไชยบัวแดง หัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิเศษพื้นที่ภาคตะวันออก กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)
กล่าวถึงแนวทางการสอบข้อเท็จจริงกรณีการร้องเรียนให้ตรวจสอบสำนักปฏิบัติธรรมสวนสันติธรรมว่า จากข้อร้องเรียน 3 ประเด็น ดีเอสไอ จะตรวจสอบได้ใน 2 ประเด็น คือ ประเด็นการได้มาซึ่งที่ดินของสำนักฯ และประเด็นยักยอกฉ้อโกงทรัพย์หรือเงินบริจาค ส่วนประเด็นที่ร้องว่า คำสอนของพระปราโมทย์ ปราโมชโช เจ้าสำนักฯ เข้าข่ายอวดอุตริมนุสสธรรม นั้น ไม่เข้าข่ายเป็นประเด็นการสอบสวนในคดีพิเศษ คงต้องเป็นหน้าที่ของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ตรวจสอบ
นายประวิทย์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้ ศูนย์ปฏิบัติการพิเศษพื้นที่ภาคตะวันออกได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าพื้นที่ไป 1 ครั้ง
และได้นำบัญชีรายรับรายจ่ายของสำนักปฏิบัติธรรมสวนสันติธรรมมาตรวจสอบจำนวน 6 แฟ้มใหญ่ ซึ่งเป็นบัญชีรายรับรายจ่ายตั้งแต่ปี 2548-2553 โดยบัญชีแรกเป็นชื่อบัญชีร่วมระหว่างนางอรนุช สันตยากร อดีตภรรยาพระปราโมทย์ และนางฐิตินาถ ณ พัทลุง ต่อมาเมื่อนางฐิตินาถ ถอนตัวจากสำนักฯ จึงเป็นชื่อนางอรนุชหรือแม่ชีอรนุชคนเดียว ตนจึงได้รวบรวมและส่งข้อมูลทั้งหมดให้สำนักการเงินการธนาคารตรวจวิเคราะห์บัญชีทั้งหมด
นายประวิทย์ กล่าวอีกว่า ส่วนประเด็นที่ดินของสวนสันติธรรมที่เป็นชื่อนางอรนุช ก่อนหน้านี้ นางอรนุชได้ยื่นคำร้องอย่างเป็นทางการต่อหน้านายอำเภอศรีราชาแสดงความจำนงยกที่ดินของสวนสันติธรรมให้เป็นที่ดินของวัด นางอรนุชจึงไม่น่าจะมีเจตนาที่จะเอาที่ดินดังกล่าวเป็นของตนเอง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเทิดศักดิ์ เตชะกิจขจร อาจารย์คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จะเข้าให้ข้อมูลเพิ่มเติมต่อดีเอสไอ